รีเซต

“สุชัชวีร์”ปราศัยใหญ่ ชี้ ฝนตกหนัก ฟ้าส่งสัญญาณ คนกทม.เลือกผู้ว่าฯผิดไม่ได้

“สุชัชวีร์”ปราศัยใหญ่ ชี้ ฝนตกหนัก ฟ้าส่งสัญญาณ คนกทม.เลือกผู้ว่าฯผิดไม่ได้
มติชน
18 พฤษภาคม 2565 ( 20:58 )
64
“สุชัชวีร์”ปราศัยใหญ่ ชี้ ฝนตกหนัก ฟ้าส่งสัญญาณ คนกทม.เลือกผู้ว่าฯผิดไม่ได้

“สุชัชวีร์”ปราศัยใหญ่ครั้งที่ 3 ฝังธนใต้ ลั่นขอเป็นผู้ว่าฯแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุง ชี้ฝนตกหนักเหมือนฟ้าส่งสัญญาณคนกทม.เลือกผู้ว่าฯผิดไม่ได้-ผู้ว่าฯไม่ใช่นักการเมืองต้องเป็นนักแก้ปัญหาเมือง

 

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.เวลา 17.30 น. ที่ลานสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ซอยบางขุนเทียน 14 เขตบางขุนเทียน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ เปิดปราศรัยใหญ่ ครั้งที่ 3 พร้อมผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 6 เขต ด้านฝั่งธรใต้ เขตบางขุนเทียน เขตบางบอน เขตหนองแขม เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ และเขตจอมทอง โดยมีผู้เข้าร่วมปราศรัย ทั้งนายเมธี อรุณ หรือเมเธ ลาบานูน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส นางฮูวัยดิย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ๊ง

 

จากนั้นเวลา 19.10 น. นายสุชัชวีร์ กล่าวปราศรัยว่า เมื่อวาน(17 พ.ค.)ฝนตกหนัก จนน้ำท่วมทั่วกรุงเทพฯก่อนวันเลือกตั้ง 4 วัน เหมือนสัญญาณที่ส่งจะท้องฟ้า ธรรมชาติบอกพี่น้องประชาชนกรุงเทพฯทุกคนว่า ท่านจะเลือกกผู้ว่าฯผิดคนไม่ได้ เพราะนี่คือสัญญาณของธรรมชาติจากท้องฟ้าบอกคนกรุงเทพฯทุกคนว่าวันนี้ธรรมาชาติจะเอาคืน หมายความว่าจากนี้ไปฝนจะไม่ตกน้อยลง ปัญหาน้ำท่วมจะไม่น้อยลง ถ้าไม่ได้ผู้นำที่ชื่อ”สุชัชวีร์” เรื่องน้ำท่วมหลายคนบอกว่าราจะหมดหวัง แต่ตนบอกกับทุกคนว่าท่านหมดหวังไม่ได้ โดยเฉพาะพี่น้องชาวบางขุนเทียน เพราะถ้าท่านหมดหวังคนที่ลำบากคือลูก หลานท่าน และหลักหมุดที่ 28 ,29 ที่ชายทะเลบางขุนเทียน บอกทุกสิ่งทุกอย่างในอนาคต วันนี้เสาไฟฟ้าไปอยู่กลางทะเลแสดงว่าวันนี้ธรรมชาติรุกคืบท่าน ไม่ใช่ทุกปีแต่เป็นทุกวัน ๆ กรุงธนใต้ คือปราการด่านสุดท้ายของกรุงเทพฯ

 

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า เวทีกรุงเทพฯไม่ใช่เวทีคิดต่างทางการเมือง แต่เป็นเวทีในการเลือกผู้ว่าฯกทม.ที่ต้องทำงานดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนและเขาคนนั้นต้องเจอปัญหาที่หนักหนาสาหัสทุกอย่าง และวันนี้ทั่วโลกเขากลัวปัญหาที่เกิดจากธรรมชาติ ตนอยากบอกว่าอีก 4 วันที่จะมีการเลือกตั้งนั้น ข้างบนฟ้าได้ส่งสัญญาณให้คนกรุงเทพชัดๆ ว่าทุกคะแนนที่ท่านจะต้องลงในวันที่ 22 พ.ค.ท่านต้องคิดให้ดี ท่านจะสูญเสียหรือทิ้งคะแนนไปเปล่าๆไม่ได้ เมื่อท้องฟ้าส่งสัญญาณว่าต่อไปกรุงเทพฯจมน้ำ ฝนตกหนักขึ้นทุกวัน ดังนั้นขอให้ท่านเลือกผู้ว่าฯต้องเป็นคนมีความรู้จริงๆ มีความเข้าใจสันฐานดินและน้ำของกรุงเทพฯจริงๆ ไม่เช่นนั้นถ้าคิดอย่างเดิมทำแบบเก่า 4ปีกรุงเทพฯจะสูญเสียไปอีกเท่าไหร่ หรือวิกฤตอาจจะแก้ไม่ได้สายเกินไปก็เป็นไปได้ ดินก็จะทรุดตัวทุกวัน และตนมีความตั้งใจมา 30ปีที่จะขออาสามาทำงานนี้

 

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า วันนี้ถ้าผู้ว่าฯไม่รู้เรื่องเหล่านี้ ก็จะใช้เงินของพี่น้องผิดไปทุกปีๆ ลองคิดดูปีหนึ่งสำนักระบายน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เงินไปมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี 10ปี มากกว่าแสนล้านบาท น้ำก็ยังท่ามกรุงเทพฯอยู่ แสดงว่าคิดแบบเดิม ทำอะไรแบบเดิมใช้ไม่ได้แล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราต้องกล้าคิดสิ่งใหม่ๆวันนี้ท่านไปดูผู้สมัครไม่มีใครที่กล้าออกมาพูด ว่าวันนี้การระบายน้ำของกทม.มันตกยุคแล้ว เมื่อมันตกยุคท่านก็ใส่เงินภาษีเข้าไปทุกปี ตนอยากบอกว่าวันนี้กรุงเทพฯเป็นแอ่งกระทะสูง ดินที่ทับถมทรุดตัวลงเรื่อยๆ และเป็นแอ่งกระทะคอนกรีดสมบูรณ์แบบแล้ว น้ำไปไหนไม่ได้ ทางรอดทางเดียวคือสูบน้ำขึ้นไปทิ่งที่แม่น้ำเจ้าพระยาแล้วไหลออกที่อ่าวไทย ตนไม่กล้าบอกว่าเป็นผู้ว่าฯแล้วเดี๋ยวเรามาลอกท่อ ลอกคลอง ตนไม่กล้าพูดไม่กล้าหาเสียงเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่เราต้องทำอยู่แล้วแต่ไม่ใช่หนทางดับทุกข์ กรุงเทพฯคือเมืองปั๊มสมบูรณ์แบบเพื่อให้น้ำแห่ง ซึ่งการปั๊มก็เหมือนปั๊บหัวใจ กรุงเทพฯก็เหมือนหัวใจ ดังนั้นตนต้องทำให้ทุกคนมั่นใจว่าปั๊มน้ำที่อยู่ในกรุงเทพฯยังทำงาน หากเครื่องสูบน้ำไม่ทำงานกรุงเทพฯก็หัวใจวายเหมือนเมื่อวาน จนถนนกลายเป็นคลองย้อนยุคไปเมื่อ100ปีที่แล้ว ดังนั้นคนที่จะเป็นผู้ว่าฯกทม.ต้องรู้เรื่องน้ำ เรื่องดินจริงๆ

 

“ผมพูดไปแล้วว่าเป็นผู้ว่าฯเมื่อไหร่ระบบปั๊มน้ำ ระบบประตูระบายน้ำต้องเป็นระบบอัตโนมัติให้ปั๊มหัวใจของคนกรุงเทพฯให้อยู่ประทังชีวิตไปได้ก่อน ท่านจะได้เห็นว่าเครื่องสูบน้ำและประตูระบายน้ำที่รอคนไปไขกุญแจ ไม่เคยน้ำทำงานกลับมาทำงานอัตโนมัติสักที และผมอาสาเป็นผู้ว่าฯแก้น้ำท่วมในพื้นที่ที่ไม่เคยแก้ได้ด้วยแกล้มลิงใต้ดิน แก้ปัญหาน้ำท่วมเบ็ดเสร็จเสียที ให้รู้ไปว่าผู้ว่าญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์เขาก็แก้ได้ แล้วคนไทยสู้เขาไม่ได้ตรงไหน และถ้าอยากเห็นให้ไปดูที่วัดเล่งเนยยี่ ที่ผมเป็นใต้ดินที่ปรึกษาได้สร้างแก้มลิงแก้ปัญหาน้ำท่วมเขตสัมพันธวงศ์ เขตป้อมปราบแล้ว ที่แค้นใจคือต้องให้วัดทำ และ4ปีมาครั้งเดียวซึ่งอาจจะสายเกินไป ท่านจะวิเคราห์และเลือกแบบไหนก็ตาม แต่วันนี้ผู้ว่าฯกทม.ไม่ใช่นักการเมือง แต่ต้องเลือกผู้ว่าฯกทม.มาเป็นนักแก้ปัญหาเมือง และการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการแก้ปัญหาด้วยความรู้ ถ้ามาแล้วไม่รู้ว่ากรุงเพทฯเป็นอย่างไร กรุงเทพฯก็จมน้ำ”นายสุชัชวีร์​กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง