เปิด จม.บิ๊กตู่ Distancing 20 เจ้าสัว ไม่เชิญมาพบ เน้นให้ช่วยชาวบ้าน
หลังจากแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ว่าจะขอความร่วมมือจาก 20 มหาเศรษฐีอันดับต้นของประเทศ ให้มาช่วยแก้วิกฤตโควิดและปัญหาต่างๆ ของประเทศ ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ต่างๆ จน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ต้องออกมาแก้ข่าวว่าจะไม่มีการขอรับบริจาคเงิน ขณะที่นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย เผยว่า บรรดามหาเศรษฐีใน 20 อันดับ หรือนอกอันดับ ทั้งที่เป็นสมาชิกหอการค้าไทยหรือไม่ได้เป็น ยินดีให้ความร่วมมือกับนายกฯ อย่างเต็มที่
ต่อมาวันที่ 20 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ทำหนังสือถึง 20 มหาเศรษฐีในประเทศไทยแล้ว โดยจดหมายดังกล่าวลงวันที่ 20 เม.ย. มีข้อความระบุว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เป็นวิกฤตการณ์ร้ายแรงของประเทศและของโลก ทำร้ายและทำลายชีวิต ความสัมพันธ์ทางสังคมและเศรษฐกิจไปพร้อมกัน อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นช่วงเวลาที่คนไทยและประเทศไทยต้องการความร่วมมืออย่างมากที่สุดจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มคนหรือองค์กรที่มีความรู้ ความสามารถมีความเข้มแข็ง จึงสื่อสารมายังท่านในฐานะเป็นผู้อาวุโสของสังคม
ผมซาบซึ้งใจที่หลายท่านได้ลงมือช่วยเหลือประชาชนไปแล้วหลายเรื่อง แต่ผมต้องการขอให้ทุกท่านทำเพิ่มเติม โดยใช้ศักยภาพของท่านมาทำให้เกิดการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนคนไทย ที่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ผมขอให้ท่านทำเอกสาร นำเสนอสิ่งที่ท่านพร้อมจะทำเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือพี่น้องคนไทย โดยผมไม่ขอรับเป็นเงินบริจาค แต่ผมขอให้ท่านลงมือทำโครงการที่จะออกไปช่วยเหลือประชาชนคนไทยทุกกลุ่มทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนทางด้านใดก็ตาม หรือด้วยวิธีการใดก็ตามขอให้เป็นการช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
รวมทั้งสิ่งใดที่ท่านเห็นว่ารัฐบาลจะช่วยอำนวยความสะดวก ให้กับโครงการนั้นได้ขอให้ท่านโปรดส่งมาให้ผมรับทราบภายในสัปดาห์หน้า ก็จะเป็นความกรุณาอย่างยิ่ง จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาและขอขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วย ลงชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
น่าสังเกตว่า ในจดหมายดังกล่าว ไม่มีการเชิญมาพบปะ เน้นให้บรรดาเจ้าสัวช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ร้อนประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดบให้ทำเอกสารส่งถึงนายกฯ หรือหากต้องการให้รัฐบาลอำนวยความสะดวกในเรื่องใด ให้ส่งมาให้พล.อ.ประยุทธ์ทราบในสัปดาห์หน้า
เท่ากับว่า เป็นการขอความร่วมมือ โดยมี “ระยะห่าง” หรือ Distancing ซึ่งอาจช่วยลดข้อวิจารณ์ที่มีต่อรัฐบาลได้ และมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า สอดคล้องกับมาตรการ Social Distancing ที่ใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าอยู่ในขณะนี้
ส่วนโครงการช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมโดยเจ้าสัวจะเป็นอย่างไร บางเจ้าสัวลงมือทำไปมากแล้ว ส่วนเจ้าสัวที่ยังเงียบๆ อยู่ คงจะออกมาเปิดเผยแนวความคิดในเร็วๆ นี้