โควิด-19: จีนพบคนไข้ชายติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่บางราย มีไวรัสปนเปื้อนในน้ำอสุจิ
ทีมนักวิจัยชาวจีนซึ่งทำการตรวจสอบสเปิร์มหรืออสุจิของคนไข้ชายที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 พบว่า น้ำอสุจิของผู้ป่วยบางรายในกลุ่มนี้มีสารพันธุกรรม RNA ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ปะปนอยู่ ซึ่งแสดงว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวสามารถเข้าสู่อวัยวะสืบพันธุ์อย่างอัณฑะ ทำให้มีความเสี่ยงที่โรคโควิด-19 อาจจะติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์ได้
มีการรายงานผลการค้นพบดังกล่าวในวารสาร JAMA Network Open ของสมาคมการแพทย์อเมริกัน โดยทีมนักวิจัยจากโรงพยาบาลประจำเขตเทศบาลชางชิวในมณฑลเหอหนานของจีนพบว่า ผู้ป่วยชาย 6 คนจากทั้งหมด 38 คนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล มีผลตรวจหาเชื้อไวรัสซาร์สซีโอวีทู (SARS-CoV-2) ในน้ำอสุจิเป็นบวก
- ไวรัสโคโรนา : ที่มา อาการ การรักษา และการป้องกันโรคโควิด-19
- ชายมีจำนวนสเปิร์มน้อยเสี่ยงรับปัญหาสุขภาพเพิ่มขึ้น
- มนุษย์เสี่ยงสูญพันธุ์ จากปัญหาผู้ชายมีสเปิร์มลดลง?
แม้จะเป็นการตรวจพบเชื้อเป็นส่วนน้อยในคนไข้กลุ่มเล็ก แต่ทีมผู้วิจัยชี้ว่าเป็นเรื่องที่ควรให้ความสนใจติดตามศึกษาเพิ่มเติมต่อไป เพื่อให้ทราบแน่ว่าไวรัสที่ก่อโรคโควิด-19 สามารถจะติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้หรือไม่ และจะมีผลในระยะยาวต่อการเจริญพันธุ์ของผู้ชายอย่างไรบ้าง เนื่องจากมีการตรวจพบเชื้อไวรัสนี้ในอสุจิของคนไข้ที่อยู่ในระยะฟื้นตัวด้วย
อัณฑะเป็นหนึ่งในอวัยวะที่ได้รับการปกป้องจากภาวะอักเสบรุนแรง ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่ภูมิคุ้มกันร่างกายตื่นตัวต้านสิ่งแปลกปลอมมากเกินไปจนทำให้อวัยวะต่าง ๆ เป็นอันตรายได้ นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าวิวัฒนาการของมนุษย์ทำให้อัณฑะ ดวงตา ระบบประสาทส่วนกลาง รกและตัวอ่อนในครรภ์ ได้รับการปกป้องเป็นพิเศษดังกล่าว แต่มันก็อาจเป็นช่องทางให้ไวรัสใช้หลบเลี่ยงการโจมตีจากภูมิคุ้มกันร่างกาย และเข้าสู่น้ำอสุจิภายในอัณฑะได้
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายรายชี้ว่า ผลการค้นพบดังกล่าวยังไม่เพียงพอจะยืนยันว่าโรคโควิด-19 สามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้จริงหรือไม่ เพราะยังมีผลการวิจัยอีกหลายชิ้นที่ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสในน้ำอสุจิของคนไข้ด้วย
ศ. อัลลัน เพซีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษเวชวิทยาจากมหาวิทยาลัยเชฟฟีลด์ของสหราชอาณาจักร กล่าวแสดงความเห็นว่า "การมีเชื้อไวรัสในน้ำอสุจินั้น ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคทางเพศสัมพันธ์ได้เสมอไป ซึ่งกรณีของจีนนี้ไม่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด เพราะเหมือนกับที่เคยพบในกลุ่มผู้ป่วยโรคอีโบลาและไข้ซิกามาแล้ว"
บทความที่ตีพิมพ์ในเว็บไซต์วิชาการ The Conversation ซึ่งเขียนโดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคนต์ของสหราชอาณาจักร ชี้ว่าผู้คนไม่ควรจะต้องเป็นกังวลเรื่องที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อไวรัสสามารถอยู่อาศัยในอัณฑะของผู้ติดเชื้อได้นานเป็นพิเศษ แม้จะฟื้นตัวจนหายป่วยไปแล้วก็ตาม ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีผลการศึกษาใดที่สามารถยืนยันถึงกรณีที่ว่านี้