รีเซต

4 องค์กรชาวไร่อ้อยเข้าพบ 'สุริยะ' 16มี.ค. ขอสนับสนุนเงินตัดอ้อยสด 120 บ./ตัน

4 องค์กรชาวไร่อ้อยเข้าพบ 'สุริยะ' 16มี.ค. ขอสนับสนุนเงินตัดอ้อยสด 120 บ./ตัน
มติชน
15 มีนาคม 2565 ( 05:25 )
80
4 องค์กรชาวไร่อ้อยเข้าพบ 'สุริยะ' 16มี.ค. ขอสนับสนุนเงินตัดอ้อยสด 120 บ./ตัน

นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันที่ 16 มีนาคมนี้ ตัวแทนจาก 4 องค์กรชาวไร่อ้อยประกอบด้วย สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยจะเข้าพบนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อแสดงความขอบคุณที่ผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดลดฝุ่นพิษ(PM2.5) ฤดูหีบปี 2563/64 ซึ่งสนับสนุน 120 บาทต่อตันและขอให้ดำเนินการในฤดูหีบปี 64/65 ต่อเนื่อง นอกจากนี้จะหารือถึงอุปสรรคและภาพรวมของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายอีกด้วย

 

สำหรับสถานการณ์ ราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกยังคงผันผวนสูงจากสถานการณ์การสู้รบในรัสเซียและยูเครนเนื่องจากทำให้ระดับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกสูงกว่า 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลซึ่งมีผลให้บราซิลที่เป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำตาลทรายอันดับ 1 ของโลกได้มีการนำน้ำตาลไปผลิตเอทานอลมากขึ้นจึงส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกขยับขึ้นเล็กน้อยจากเฉลี่ย 18 เซนต์ต่อปอนด์โดยราคาส่งมอบเดือนมี.ค.2566 อยู่ที่ 19.45 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวยังคงต้องติดตามใกล้ชิดว่าจะมีทิศทางอย่างไรแน่

 

ด้านการเปิดหีบอ้อยฤดูหีบปี 2564/65 ของ 57 โรงงานที่เริ่มทยอยตั้งแต่ 7 ธ.ค. 64 จนถึงปัจจุบันมีผลผลิตอ้อยแล้วกว่า 84 ล้านตันซึ่งล่าสุดโรงงานประมาณ 8-9 แห่งได้ปิดหีบแล้วที่เหลือส่วนใหญ่จะทยอยปิดจนถึงช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้จะเหลือเพียงบางแห่งในบางพื้นที่เช่น อีสาน ภาคตะวันตกเนื่องจากเผชิญกับฝนตกต่อเนื่องทำให้การเก็บเกี่ยวล่าช้า ดังนั้นเบื้องต้นคาดว่าปริมาณผลผลิตอ้อยทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 87-88 ล้านตัน

 

“คาดว่าโรงงาน 90% จะปิดหีบสิ้นเดือนนี้จะมีบางส่วนที่ยังเหลืออยู่ โดยผลผลิตปีนี้ยอมรับว่าหากไม่มีปริมาณฝนกตกบ่อยอาจจะได้สูงกว่านี้เพราะฝนที่ตกมาเร็วทำให้ค่าความหวานลดลงและมีผลต่อสิ่งเจือปน ภาพรวม ณ วันนี้จึงมองว่าอ้อยเข้าหีบน่าจะอยู่ราว 87-88 ล้านตันซึ่งหากเทียบกับฤดูหีบปี 2563/64 ซึ่งได้รับผลกระทบภัยแล้งค่อยข้างหนักมีผลผลิตอ้อยเพียง 66.66 ล้านตันก็นับว่าเริ่มกลับมาสู่ภาวะที่ปกติ”นายนราธิปกล่าว

 

อย่างไรก็ตามปริมาณฝนที่มาเร็ว ประกอบกับโรงงานประกาศประกันรับซื้ออ้อยสดตั้งแต่ฤดูหีบปี2565/66 – 2567/68 ในราคา 1,200 บาทต่อตันอ้อย ณ ค่าความหวาน 12.63 ซี.ซี.เอส. รวมถึงราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกทรงตัวระดับสูง 18-19 เซนต์ต่อปอนด์ก็จะทำให้ผลผลิตอ้อยของไทยในฤดูหีบปี 2565/66 มีโอกาสที่จะแตะระดับ 90-100 ล้านตันได้เช่นกันโดยผลผลิตอ้อยของไทยเคยทำสถิติสูงสุดไว้ที่ 134.93 ในปี 2560/61

ข่าวที่เกี่ยวข้อง