“เอเธนส์” ร้อนทะลุ 43 องศาฯ สั่งปิด “อะโครโพลิส” ชั่วคราว

ในช่วงวันที่ 22 ก.ค.ง ที่ผ่านมา กรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของประเทศกรีซ ต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนอย่างรุนแรงเป็นครั้งที่สามของฤดูร้อนปีนี้ โดยอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 43 องศาเซลเซียส ส่งผลให้รัฐบาลต้องประกาศปิดสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง “อะโครโพลิส” ซึ่งเป็นโบราณสถานชื่อดังและเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เป็นเวลาถึง 5 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลาเที่ยงวันถึงห้าโมงเย็น ในวันอังคารและขยายต่อเนื่องไปถึงวันพุธ
บรรยากาศภายในอะโครโพลิสที่ปกติเต็มไปด้วยผู้คนกลับว่างเปล่า เสาหินอ่อนโบราณตั้งอยู่ท่ามกลางอากาศร้อนจัดและความชื้นอบอ้าว ขณะที่หน่วยงานด้านแรงงานของกรีซได้ออกคำสั่งให้แรงงานกลางแจ้งหยุดปฏิบัติงานในช่วงเวลานี้เช่นกัน รวมถึงแนะนำให้ผู้มีปัญหาสุขภาพทำงานจากที่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเครียดจากความร้อน
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับกรีซ ประเทศที่ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้สุดของทวีปยุโรปซึ่งมีฤดูร้อนที่ร้อนและแห้งแล้งอยู่แล้ว แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ได้เลวร้ายลงอย่างชัดเจนจาก ภาวะโลกร้อน (Global Warming) ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้คลื่นความร้อนมีความรุนแรงมากขึ้น เกิดบ่อยขึ้น และยาวนานกว่าเดิม
นอกจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นแล้ว ผลกระทบของโลกร้อนยังส่งผลให้เกิดภัยพิบัติอื่น ๆ ตามมาในกรีซ เช่น ไฟป่าที่ทำลายพื้นที่ป่าและบ้านเรือน รวมถึงน้ำท่วมที่สร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนถึงสัญญาณอันตรายที่โลกกำลังเผชิญ หากไม่ร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง
การปิดอะโครโพลิสครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การป้องกันนักท่องเที่ยวจากอากาศร้อนจัดเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญว่า มนุษยชาติกำลังต้องเผชิญกับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่รุนแรงและใกล้ตัวมากกว่าที่เคย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
