ยอมสึกแล้ว!พระนิสิตแชทจีบอาจารย์ สำนึกผิดไหว้เหยื่อขออภัยที่ล่วงเกิน
ยอมสึกแล้ว!พระนิสิตแชทจีบอาจารย์สาว สำนึกผิดไหว้เหยื่อขออภัยที่ล่วงเกิน เตรียมกลับไปบ้านพักที่เชียงราย เพื่อสู้คดี ด้านครูอโหสิกรรมให้หากสำนึกได้
กรณี พระอำพล พระนิสิตจาก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง แชทไลน์จีบครูสาวที่สอนตัวเอง พร้อมส่งข้อความคลิปอนาจารต่างๆ ไปให้ จนครูสาวแจ้งความไว้แล้วถึง 2 คดี เมื่อตรวจสอบในทางสื่อออนไลน์ยังพบว่าที่ผ่านมาอดีตพระอำพลสร้างโลกไว้ 2 ใบ ใบแรกในสถานะเป็นพระสงฆ์ไลฟ์สอนธรรมะและกิจกรรมของวัด และโลกใบที่ 2 เป็นฆราวาสเป็นยูทูบเบอร์ไลฟ์ และโพสต์เกี่ยวกับทางโลก เรื่องของสังคมต่างๆ มากมาย รวมถึงคลิปแอบถ่ายผู้หญิง และสิ่งที่ไม่เหมาะสมลงในโลกออนไลน์ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระอำพล สุชาโต เดินทางจากจังหวัดเชียงรายมาถึงที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม พระอารามหลวง เพื่อพบกับพระจินดารัตนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดลำปาง แล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา
ซึ่งทางพระจินดารัตนาภรณ์ สอบถามถึงที่มาที่ไปของเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมขอดูใบสุทธิ ซึ่งพบที่แท้จริงแล้วพระอำพลบวชที่วัดห้วยคิงเมื่อปี 2550 และหลังจากนั้นก็ไปอยู่ที่กทม. โดยเข้าสังกัดวัดวิมุตยาราม ต.บางอ้อ บางพลัด กรุงเทพมหานคร ในปี 2556 จนถึงปัจจุบันก็ยังคงสังกัดที่เดิม ส่วนที่มาอยู่ในพื้นที่จังหวัดลำปางเนื่องจากมาเรียนหนังสือเท่านั้น และที่ผ่านมาไปจำพรรษาที่พุทธสถานจังหวัดเชียงราย
ซึ่งพระจินดารัตนาภรณ์ ให้ข้อคิดหลายอย่างและเตือนสติ ซึ่งในตอนแรกพระอำพลจะยังไม่สึกในวันนี้ โดยอ้างว่ายังไม่ได้เตรียมตัว ยังไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าขออยู่ต่อก่อน 2-3 วันแล้วจะมาลาสิกขา แต่พระจินดารัตนาภรณ์ บอกว่าขอให้พระอำพลสละความสุขส่วนตัว เพื่อความสุขของผู้อื่น ให้เห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวม ภาพลักษณ์ของส่วนรวม
ซึ่งหลวงพ่อในฐานะผู้บริหารของคณะสงฆ์ก็ต้องปฏิบัติเสมอเหมือนกันหมด ขอความเห็นใจจากท่าน หากเราไม่ทำแบบนี้เพื่อเป็นบรรทัดฐานของสังคม ต่อไปเรื่อยๆ คนนั้นทำได้ คนนี้ทำได้ การปกครองจะอ่อนแอ
ส่วนเมื่อสึกไปแล้วก็ยังสามารถไปต่อสู้กับคดีทางโลกให้เสร็จ เมื่อเสร็จเรียบร้อยหากจะกลับมาบวชก็ยังสามารถกลับมาได้ และสอบถามถึงที่อยู่พระอำพลก็บอกว่า ยังมีบ้านอยู่ที่เชียงราย ที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ แต่ไม่มีญาติพี่น้อง
ต่อมาพระอำพลก็ยินยอมลาสิกขา โดยมีพระเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดลำปางเป็นผู้ช่วยบอกบทลาให้ พร้อมกับนำชุดขาวมาให้เปลี่ยน พร้อมมอบปัจจัยให้จำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปซื้อเสื้อผ้าและเป็นค่าเดินทาง พร้อมสอนให้มีสติ ไตร่ตรอง นำความรู้ที่มีไปใช้ในการประกอบอาชีพ เพราะเชื่อว่าเป็นคนที่มีฝีมือในด้านเทคโนโลยี และขอให้นำไปใช้ในทางที่ถูกต้อง
หลังจากลาสิกขาแล้วนายอำพล ก็กราบขออภัยพระสงฆ์และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ที่ตนกระทำสิ่งใดก็ตามที่เป็นการเสื่อมเสียในวงการพระพุทธศาสนา หลังจากนี้ก็จะไปต่อสู้คดีที่มีอยู่และก็คงจะกลับบ้านที่เชียงราย
จากนั้นเมื่อนายอำพล กราบลาพระจินดารัตนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดลำปาง เพื่อไปขอพำนักที่วัดศรีชุม ซึ่งเป็นวัดที่ปรึกษาของนายอำพลก่อนหน้านี้ ครูสาวคนดังกล่าวก็เดินทางมาที่วัด นายอำพลจึงเข้าไปกราบขออภัยที่ได้ล่วงเกิน และขอให้ครูเมตตาในสิ่งที่เกิดขึ้น โดยครูสาวได้รับไหว้ และกล่าวและสอบถามอีกครั้งว่า ขณะนี้รู้สำนึกและได้สติแล้วใช่หรือไม่ หากมาขออภัย ตนก็ขออโหสิกรรมให้ทั้งหมด หากสำนึกได้
ส่วนเรื่องคดีก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และฝากว่าอย่าได้ล่วงเกินครูบาอาจารย์ในลักษณะนี้อีก สิ่งไหนที่ทำไม่ดีก็ให้เลิก ให้หยุด ให้ลบคลิปที่ไม่ดีต่างๆ ออกไป ซึ่งจากนั้นครูก็ถามสารทุกข์ของนายอำพล พร้อมย้ำว่าต่อไปนี้จะทำอะไรขอให้มีสติคิดให้มากๆ และอย่าทำผิดอีกขอให้เป็นคนดีของสังคม
ภาพจาก อมรินทร์ทีวี