รีเซต

“นฤมล” ถกบอร์ด ก.ค.ศ. ปรับหลักเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะ เปิดทางใช้ผลงานเชิงประจักษ์

“นฤมล” ถกบอร์ด ก.ค.ศ. ปรับหลักเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะ เปิดทางใช้ผลงานเชิงประจักษ์
TNN ช่อง16
31 ตุลาคม 2568 ( 14:44 )
18

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 9/2568 โดยมีคณะกรรมการเข้าร่วม ณ ห้องประชุมราชวัลลภ และออนไลน์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 

ศ.ดร.นฤมล เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อส่งเสริมให้มีช่องทางเสนอผลงานที่หลากหลายมากขึ้น

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า เป็นเรื่องที่ดีและเป็นความก้าวหน้าของนโยบายลดภาระครู ที่ต้องการปรับระบบการประเมินวิทยฐานะครู เพื่อช่วยส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกประเภท ได้มีช่องทางในการเสนอผลงานที่หลากหลายตามความถนัด และเป็นผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติงานในหน้าที่ได้ด้วย ซึ่งที่ประชุมในวันนี้ ก็ได้พิจารณาแนวทางการแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งวิทยฐานะฯ ตามที่สำนักงาน ก.ค.ศ.เสนอ จึงได้เห็นชอบให้แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งวิทยฐานะฯ 

โดยให้สำนักงาน ก.ค.ศ. กำหนดคำนิยามและลักษณะของการนำเสนอผลงานนวัตกรรมเชิงประจักษ์ให้มีความชัดเจน เพิ่มความหลากหลาย ให้ครูฯ สามารถเสนอผลงานทางวิชาการเพื่อขอมี/เลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ โดยสามารถเลือกได้ว่า จะส่งเป็นรายงานการสร้างหรือพัฒนานวัตกรรมเชิงประจักษ์ หรือรายงานการวิจัย เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงทักษะ การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การสร้างหรือพัฒนานวัตกรรม และวิจัย เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งถือเป็นความรู้ความสามารถทางวิชาการที่จำเป็นจะต้องมีในวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และเชี่ยวชาญพิเศษ 


"อาจารย์ได้รับฟังเสียงของครูว่า การเสนอผลงานวิจัยเป็นภาระหนัก ในขณะที่ครูมีผลงานดี ๆ จากการปฏิบัติหน้าที่จริงมีอยู่มากมาย หลักเกณฑ์ฯ ที่แก้ไขนี้ จะช่วยให้ครูสามารถนำผลงานเชิงประจักษ์มาเสนอได้ สะท้อนความเป็นจริงของการทำงาน และที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ. พิจารณาเพิ่มเติมในส่วนของการนำผลงานเชิงประจักษ์ในรูปแบบรางวัลมาเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาอีกครั้งด้วย เพื่อเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายและครอบคลุมที่สุด ในส่วนของการประเมินผลงานทางวิชาการ สำหรับวิทยฐานะเชี่ยวชาญและวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ผ่านระบบ DPA ยังกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการประเมินผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแลกเปลี่ยนการพิจารณาร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง โดยการดำเนินการประชุมอยู่ในชั้นความลับทุกขั้นตอนด้วย" ศ.ดร.นฤมล กล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการพัฒนาหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครู ของระบบย้ายครู TRS ระยะที่ 3 โดยเน้นความ "ยืดหยุ่น" ในการดำเนินการให้มากขึ้น เช่น ขยายพื้นที่ให้ครูยื่นคำร้องเลือกสถานศึกษาใดก็ได้ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอื่นในจังหวัดเดียวกัน, ส่วนตำแหน่งว่างที่รับย้าย ปรับให้สามารถระบุกลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอก ได้สูงสุด 3 วิชาเอก ต่อ 1 อัตราว่าง เป็นต้น

ศ.ดร.นฤมล กล่าวด้วยว่า การใช้ระบบดิจิทัลจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดทำเอกสารคำร้องของครู จากเดิมครั้งละ 200-300 บาท เมื่อมีคำร้องขอย้ายเฉลี่ยปีละประมาณ 70,000 คำร้อง จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 14-21 ล้านบาทต่อปี สอดคล้องกับนโยบายลดภาระงานและไม่ให้มีการเรียกรับผลประโยชน์ใด ๆ จากครู ทั้งนี้ การดำเนินการยังคงยึดหลักธรรมาภิบาล หลักคุณธรรม จริยธรรม ความเสมอภาค และประโยชน์ของทางราชการ 

นอกจากนี้ ในส่วนของการเพิ่มสัดส่วนกรรมการประเมินวิทยฐานะที่เป็นข้าราชการครู ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการประเมินตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา (ว12/2564) รวม 486 คน โดยเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรืออดีตผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการที่มีประสบการณ์ตรงทั้งนี้ เพื่อให้การประเมินวิทยฐานะมีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับบริบทการจัดการศึกษาและการบริหารการศึกษาของแต่ละส่วนราชการ

สำหรับการประเมินผ่านระบบดิจิทัล (DPA) ส่วนราชการต่างๆ ได้เสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิรวม 6,251 คน ขณะนี้มีผู้กรอกข้อมูลและมีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว 1,180 คน แบ่งเป็น สพป. 587 คน สพม. 484 คน สอศ. 79 คน สกร. 17 คน และ สป.ศธ. 13 คน ซึ่ง อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับวิทยฐานะฯ ได้เห็นชอบบัญชีรายชื่อดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

ศ.ดร.นฤมล กล่าวทิ้งท้ายว่า มติของ ก.ค.ศ. ในครั้งนี้ จึงสะท้อนความมุ่งมั่นของกระทรวงศึกษาธิการในการดูแลข้าราชการครูอย่างเป็นรูปธรรม เน้นการลดภาระงานที่ไม่จำเป็น เพิ่มโอกาสในการเติบโตทางวิชาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของครู เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศต่อไป

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง