ITCออเดอร์ต่างแดนฟื้น อัดลงทุนโรงงานดันยอด
ITC ชูครึ่งหลังปี 2566 รับดีมานด์ฟื้นแรง พร้อมเตรียมงบ 2.1 พันล้านบาท ลุยโรงงานใหม่เสริมแกร่งธุรกิจเพิ่ม แถมยิ้มรับบาทอ่อนค่า หนุนช่วยออเดอร์ใหม่ทะลักเข้าพอร์ต แจงกรณีลูกค้าใหญ่เลิกสัญญาOEM ไม่จริง ยืนยันต่อสัญญายาว
นายไชยวัฒน์ เจริญรุจิตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC เปิดเผยแนวโน้มผลงานครึ่งหลังปี 2566 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก 2566 เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาของคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ของลูกค้าในประเทศต่างๆ ที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน หลังปริมาณสำรองสินค้า (สต๊อก) ของลูกค้าเริ่มลดลง รวมทั้งบริษัทยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ
บาทอ่อนหนุน
ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ ITC แบ่งเป็น กลุ่มลูกค้าในแถบสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ประมาณ 51%, ลูกค้าในโซนยุโรป 11% และที่เหลือมาจากในเอเชียและอื่นๆ รวมทั้งบริษัทมีแนวทางทำตลาดลูกค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมรายรับในอนาคต
สำหรับผลประกอบการปี 2566 บริษัทได้มีการปรับเป้ารายได้เป็นลดลง 26-27% จากเดิมที่ประมาณการไว้ทรงตัว เมื่อเทียบกับปี 2565 หลังช่วงครึ่งแรกปี 2566 ทำรายได้เพียง 6.83 พันล้านบาท ผลมาจากออเดอร์ลดลง หลังสต๊อกลูกค้าอยู่ในระดับที่สูง แต่เชื่อว่าน่าจะได้เห็นการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือปีนี้ ประกอบกับบริษัทมีการปรับราคาขายเพิ่มเฉลี่ย 3-5% เพื่อสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้นด้วย
ด้านทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่องจนล่าสุดมาอยู่ที่ราว 35.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (อิงข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ 11 ส.ค. 2566) บริษัทประเมินว่าน่าจะเป็นผลต่อบริษัท เพราะช่วยผลักดันคำสั่งซื้อของลูกค้าให้มากขึ้น ตลอดจนจนทำให้เพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนของบริษัทอีกทางหนึ่ง
อัดงบเสริมแกร่ง
ขณะที่งบการลงทุนปีนี้ทาง ITC วางไว้ประมาณ 2.1 พันล้านบาท รองรับการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดสมุทรสาคร (เพิ่มกำลังผลิตอีก 18.7% และคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ต้นปี 2567) ประกอบกับปรับปรุงและพัฒนากระบวนการผลิตต่างๆ หวังเสริมศักยภาพการดำเนินงานของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
นายไชยวัฒน์ กล่าวเสริมว่า ในแง่ประเด็นเกี่ยวกับกระแสข่าวว่าลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ชั้นนำระดับโลกจะยกเลิกออเดอร์จ้างผลิต (OEM)กับทาง ITC นั้นบริษัทขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยจากการเข้าพบลูกค้ารายนี้ล่าสุดไม่ได้มีแนวทางยกเลิกสัญญา OEM และในทางกลับกันจะมีการเพิ่มคำสั่งซื้อใหม่ให้กับ ITC ด้วย
ฟื้นแรงเป้า 21 บ.
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด (มหาชน) คาดว่าในไตรมาส3/2566 Pet Treats ของบริษัทจะดีขึ้นทั้งยอดขายและสัดส่วน เนื่องจากจะมีการสั่งสินค้าเพิ่มขึ้นจาก12 ตู้เป็น 20 ตู้ และราคาทูน่าช่วงไตรมาส3/2566 ยังใกล้เคียงไตรมาส 2/2566 และคาดว่าจะลดลงในไตรมาส4/2566 คาดว่าในครึ่งปีหลังจะมีผลประกอบการที่เติบโต จากครึ่งปีแรก แต่คาดปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากฐานที่สูงในช่วงครึ่งหลังปีก่อน จากการกักตุนสินค้าที่สูงกว่าปกติ
ทั้งนี้คาดการณ์กำไรปี 2566-2567 ไว้ราว2.17 พันล้านบาท และ 3.43 พันล้านบาท โดยยอดขายในช่วงครึ่งแรกปีนี้อยู่ที่6.38 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 34.3% จากกลุ่มลูกค้าที่ยังคงอยู่ในช่วงDestocking และยาวนานกว่าคาด ในขณะที่สัดส่วนจากสินค้ากลุ่มPremium มีการปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 44.1% จาก49.3% ในปี 2565 จากผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อของยุโรปที่อยู่ระดับสูง ส่งผลให้ภาคครัวเรือนมีการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง จึงประเมินราคาเป้าหมายครึ่งแรกของปี2567 ที่ 21.00 บาท.