ยอดเสียชีวิตจากโควิดในเยอรมนีพุ่ง วันเดียว 446 ราย สูงสุดในรอบ 9 เดือน
รอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมนี้ว่า สถาบัน โรเบิร์ต คอช ซึ่งเป็นสำนักงานว่าด้วยโรคติดเชื้อแห่งรัฐของเยอรมนี รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิดในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ว่า มีมากถึง 67,186 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 302 ราย แต่มีผู้เสียชีวิตวันเดียวมากถึง 446 ราย ซึ่งเป็นสถิติเสียชีวิตต่อวันสูงสุดในรอบ 9 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ปีนี้ และทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 สะสม พุ่งขึ้นเป็น 101,790 รายแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยอดการติดเชื้อต่อจำนวนประชากร 100,000 คนในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดย มีอัตราส่วนอยู่ที่ 442.9 รายต่อ ประชากร 100,000 ราย ลดลงจากเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งอยู่ที่ 452.2 รายต่อประชากร 100,000 ราย
สถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าวทำให้รัฐบาลเยอรมนี และรัฐบาลของรัฐต่างๆ ตกลงกันในการกำหนดมาตรการเข้มงวดมากขึ้นเพื่อยับยั้งการระบาดระลอกที่สี่ในเยอรมนี ด้วยการเร่งรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับมาตรการรักษาระยะห่าง, ลดการสัมผัส โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ไม่ยอมรับการฉีดวัคซีน และเตรียมชี้ขาดว่าจะใช้มาตรการเข้ม เช่น บังคับให้ประชาชนต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือ การผ่านการติดเชื้อโควิดมาก่อนหน้านี้ เมื่อต้องเข้าไปจับจ่ายใช้สอยในร้านค้า หรือร้านอาหาร รวมทั้งการจำกัดปริมาณผู้ที่เข้าร่วมในเหตุการณ์ที่เป็นการชุมนุมผู้คนจำนวนมาก อย่างเช่นการดูกีฬาหรือคอนเสิร์ตหรือไม่ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นาย แกร์โนต์ มาร์กซ์ ประธานสมาคมดีไอวีไอ ซึ่งเป็นสมาคมการแพทย์ผู้ป่วยหนัก ออกมาเตือนว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่ในช่วงคริสตมาสที่กำลังจะมาถึงนี้ จะยังคงมีผู้ป่วยโควิด-19 ต้องรักษาตัวอยู่ในหออภิบาลผู้ป่วยหนักหรือไอซียู มากถึง 6,000 ราย ไม่ว่าทางการเยอรมนีจะตัดสินใจใช้มาตรการเข้มข้นมากขึ้นหรือไม่ ในขณะที่ยังคงหลงเหลือเตียงพยาบาลในไอซียู และเจ้าหน้าที่แพทย์-พยาบาลเพื่อการนี้ ลดน้อยลงตามลำดับอีกด้วย