ดินทรุดหน้าวัดธรรมามูล เร่งเก็บกู้รถจมน้ำ ครู-นักเรียน ผวาไม่กล้าเข้าใกล้ตลิ่ง

 จากกรณีดินตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าโรงเรียนวัดธรรมามูล ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท เกิดสไลด์ตัวลงไปในแม่น้ำความยาวประมาณ 70 เมตร จนกุฏิ ศาลา และอาคารโรงจอดรถของโรงเรียนพังทลาย จมลงแม่น้ำพร้อมกับรถยนต์ของครู 3 คัน รถจักรยานยนต์ 5 คันและรถจักรยานของเด็กนักเรียนอีก 6 คัน รวม14 คัน เมื่อวานนี้(10 มิ.ย.)

ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้งซึ่งพบว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการปิดกั้นพื้นที่เพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งวางกำลังทั้งฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองท้องถิ่น ปภ. เจ้าท่า ทางหลวงชนบท อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงร่วมปฎิบัติการกู้ภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยกรมชลประทานได้นำรถเครนขนาดใหญ่มาเตรียมการที่จะยกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆที่จมอยู่ใต้น้ำขึ้นมา โดยคาดว่าจะสามารถปฏิบัติการแล้วเสร็จได้ภายในวันนี้

ภาพจาก ผู้สื่อข่าวชัยนาท

ขณะเดียวกันผู้ประสบภัยและชาวสบ้านในพื้นที่เอง ยังคงผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะคุณครูกับเด็กๆในโรงเรียนที่เห็นเหตุการณ์ ต่างก็ยังไม่กล้าที่จะเดินมาใกล้ตลิ่ง เพราะยังคงหวาดกลัวกับเหตุกานรณ์ที่เกิดขึ้น 

ซึ่งคุณครูวนพรรณ เจ้าของรถเก๋ง ที่จมหายไปพร้อมกับรถคันอื่นๆ เปิดเผยว่า รถคันนี้เป็นรถที่ซื้อจากเงินออมทั้งชีวิต แต่จู่ๆมาจมหายไปต่อหน้าต่อตา ตนเองไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เพราะรถไม่มีประกัน ตอนนี้ไม่มีรถใช้ จะกู้เงินสหกรณ์มาซื้อรถคันใหม่ก็ไม่รู้จะได้หรือเปล่า เพราะตนอายุมากแล้ว จากเหตุการณ์นี้จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่รับผิดชองบ ขอให้เร่งดำเนินการป้องกันตลิ่งทรุดอย่างเร่งด้่วน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายขึ้นได้อีก

ส่วนครูมิ้ม เจ้าของรถอีกคันที่อยุ่ในเหตุการณ์รถจมหายต่อหน้า อยากให้ช่วยเร่งรัดการจัดสรรงบประมาณเพื่อการทำเขื่อนกันน้ำเดวาะตลิ่งในจุดนี้เป็นการพิเศษ เพราะตนเองรู้สึกได้ถึงอันตรายที่จะตามมาอีกหลังเหตุการณ์นี้

ด้านน้องวิว เด้กชายอายุ10ปี นักเรียนชั้น ป.4ที่ กำลังเรียนอยู่บนอาคารชั้น 2 ห่างจากตลิ่งที่เกิดเหตุประมาร 30 เมตรเปิดเผยว่า ตอนนี้ยังรู้สึกตื่นกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเสียงระหว่างเกิดเหตุมันเสียดแทงความรู้สึกอย่างมาก ตอนนี้ตนเองและเพื่อนๆยอมรับว่ากลัวมากจนไม่กล้าเข้าใกล้ตลิ่งแม้แต่เดินเฉียดเลยทีเดียว

ภาพจาก ผู้สื่อข่าวชัยนาท