เฟดเสียงแตก กังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มในการตรึงดอกเบี้ยเดือนธ.ค.นี้ ทองหลุดแนวต้านที่ 4,055 $

ทองโลกยังคงปรับตัวลง จากการที่ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นในวันเดียวกัน สู่ระดับ 99.53 หน่วย จาก 99.26 หน่วย อีกทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ยังทรงตัวอยู่ในระดับ 4.15% - 4.13% จากการที่ตลาด CME FedWatch ได้ปรับการคาดการณ์ลงเล็กน้อยเป็น 42.9% จาก 44.4% ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธ.ค.นี้ ในขณะที่ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ / คลีฟแลนด์ และ มินนิอาโปลิส ยังคงแสดงท่าทีในความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มในการตรึงดอกเบี้ยเดือนธ.ค.นี้ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เงินเฟ้อมีการขยายตัวเพิ่มเติม 

อย่างไรก็ตาม นายฟิลลิป เจฟเฟอร์สัน รองประธานเฟด และนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ได้กล่าวไปในทำนองเดียวกันว่า อัตราเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวสูงกว่า 3% อันเนื่องมาจากภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์เป็นเพียงเรื่องชั่วคราว และได้ชี้ให้เห็นถึงอุปสงค์-อุปทานในตลาดแรงงานที่ชะลอตัว ซึ่งวอลเลอร์มีมุมมองว่าการลดดอกเบี้ยเมื่อเดือนต.ค อาจยังไม่เพียงพอที่จะพยุงเศรษฐกิจให้กลับสู่จุดสมดุล แต่ทางเจฟเฟอร์สันยังคงมีท่าทีในการรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ทางด้านกองทุน SPDR ขายทองคำ 2.57 ตัน รวมสุทธิ 1,041.43 ตัน

ราคาทองโลกได้ปรับตัวลงหลุดแนวต้านที่ 4,055 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มย่อตัวลงต่อเนื่อง จึงประเมินว่า ทองโลกอาจปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 4,000 ดอลลาร์ และมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในภายหลัง แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,974 ดอลลาร์ ทองโลกอาจปรับฐานลงต่อเนื่อง คืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ

ทองโลกมีแนวโน้มปรับฐานลงต่อเนื่อง จึงแนะนำใช้กลยุทธ์ย่อซื้อสะสมหากราคาลงทดสอบแนวรับที่ 4,000 ดอลลาร์ และทยอยขายตามแนวต้านที่ระดับ 4,055 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,974 ดอลลาร์ ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน

ราคาทองในประเทศมีการย่อตัวลงตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าระยะสั้น จึงแนะนำทยอยขายตามแนวต้านที่ระดับ 62,250 และทยอยซื้อตามแนวรับที่ 61,700 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 61,550 บาท ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน