คลัง เตือนไทยรับมือสหรัฐ "Shutdown" ลุกลาม

นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Vorapak Tanyawong ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่งปิดทำการ (shutdown) หลังสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณทันเส้นตาย 1 ตุลาคม ทำให้บริการของรัฐ “ที่ไม่จำเป็น” ต้องหยุดชะงัก มีเจ้าหน้าที่ราว 750,000 คน ถูกสั่งพักงาน ส่งผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจในประเทศทันที
1. ผลกระทบภายในสหรัฐฯ
• หน่วยงานหลายแห่งปิด รวมถึงอุทยานแห่งชาติ ศุลกากร และหน่วยงานสถิติแรงงาน (BLS) → รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน เลื่อนออกไป
• กระทบตลาดแรงงานและการตัดสินใจของ Fed ที่กำลังพิจารณาลดดอกเบี้ย
• ที่สำคัญ รัฐบาลทรัมป์ส่งสัญญาณว่า shutdown รอบนี้อาจไม่ใช่การ “พักงานชั่วคราว” แต่เป็นการ “ปลดถาวร” ข้าราชการบางส่วน → ทำให้ตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอหนักขึ้น
• ผลกระทบเศรษฐกิจขึ้นกับระยะเวลา: ครั้งก่อน (2018–2019) ทำ GDP หายไป 11 พันล้านดอลลาร์ และ 3 พันล้านดอลลาร์ไม่กลับมาเลย
2. ถ้าสถานการณ์ยืดเยื้อบานปลาย อาจจะมีผลกระทบต่อประเทศไทยได้
• ค่าเงินบาทและตลาดการเงิน: นักลงทุนอาจจะผันเงินไปหาสินทรัพย์ปลอดภัย ค่าเงินอาจจะผันผวน SET รับแรงกดดัน
• การส่งออก คำสั่งซื้อจากสหรัฐฯ เสี่ยงชะลอ โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าอุตสาหกรรม อีกทั้งศุลกากรสหรัฐฯ ที่ทำงานล่าช้าอาจทำให้สินค้าค้างท่าเรือ
• การท่องเที่ยว ถ้าผู้บริโภคอเมริกันระมัดระวังการใช้จ่าย การเดินทางท่องเที่ยวอาจลดลงบ้าง
• ความเชื่อมั่นการลงทุน ความไม่แน่นอนในสหรัฐฯ จะเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทย แต่ก็เปิดโอกาส หาก Fed ลดดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด เงินทุนบางส่วนอาจไหลกลับเข้ามาในภูมิภาค
3. แนวทางที่ไทยควรเตรียมรับมือ ถ้าสถานการณ์ลุกลามบานปลาย
• ดูแลเสถียรภาพค่าเงิน: ธปท. ต้องพร้อมใช้เครื่องมือดูแล FX ไม่ให้กระทบภาคส่งออก/นำเข้า
• บริหารความเสี่ยงด้านส่งออก: หาตลาดเสริม (เช่น จีน อาเซียน ตะวันออกกลาง) และประสานทูตพาณิชย์กับฝ่ายสหรัฐฯ ถ้ามีปัญหาติดขัดด้านศุลกากร
• เตรียมมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจ: อาทิเช่นมาตรการ soft landing เช่นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับ SMEs และ FX hedging สำหรับผู้ส่งออกที่ถูกกระทบจากตลาดสหรัฐ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
