ฟิลิปปินส์ “คุมเข้ม” เลือกตั้ง หลังมีเหตุบึ้มใกล้คูหา-หวั่น “ลูกมาร์กอส” นั่งผู้นำ
ฟิลิปปินส์ “คุมเข้ม” - วันที่ 9 พ.ค. เอเอฟพี รายงานบรรยากาศการ เลือกตั้งประธานาธิบดี ใน ฟิลิปปินส์ ว่า ประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางไปยังเขตเลือกตั้งทั่วประเทศซึ่งมีการตรึงกำลังคุมเข้มของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง
หลังเกิดเหตุลูกระเบิด 5 ลูกระเบิดด้านนอกคูหาในเมืองดาตู อันเซย์ จังหวัดมากินดาเนา เขตปกครองตนเองมินดาเนามุสลิม ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 คน
และไม่กี่นาทีต่อมาเกิดเหตุระเบิด 1 ลูกระเบิดในเมืองชาริฟฟ์ อากวัก ติดเมืองดาตู อันเซย์ ด้านตำรวจแถลงว่าผู้บาดเจ็บเดินเท้ามาจากหมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกลซึ่งต้องใช้เวลา 8-12 ชั่วโมงในการเดินทางเพื่อมาลงคะแนนที่คูหาเลือกตั้ง
ขณะเดียวกันหลายฝ่ายเชื่อมั่นว่านายเฟอร์ดินานด์ “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์ ลูกชายของนายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตผู้นำเผด็จการที่ถูกโค่นอำนาจในการปฏิวัติของประชาชนเมื่อ 36 ปีก่อน จะคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งคนสำคัญคือนางเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ซึ่งในอดีตเคยเป็นทนายความและนักรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน
เนื่องจากผลสำรวจในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งนายมาร์กอส จูเนียร์ ได้รับคะแนนนิยมจากชาวฟิลิปปินส์อย่างล้นหลามและมีโอกาสในการชนะถึงงร้อยละ 75 ท่ามกลางความวิตกกังวลของบรรดาผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิกและนักวิเคราะห์ทางการเมืองที่หวาดหวั่นว่านายมาร์กอส จูเนียร์ จะยิ่งเหิมเกริมหากชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนที่ทิ้งห่าง
ด้านนางคริสตินา ปาลาเบย์ เลขาธิการองค์กรคาราปาตัน องค์กรเอกชนไม่แสวงกำไร (เอ็นจีโอ) ด้านสิทธิมนุษยชนในฟิลิปปินส์ กล่าวว่าสถานการณ์ในประเทศจะยิ่งเลวร้ายถ้านายมาร์กอส จูเนียร์ ได้เป็นผู้นำ