CENTEL ส่อง Q3/63 ขาดทุนลดลงจากไตรมาสก่อน จากธุรกิจอาหารช่วยหนุน
ทันหุ้น -สู้โควิด –บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ว่าคาดผลการดำเนินงาน 3Q20E จะขาดทุนสุทธิที่ -363 ล้านบาท จากกำไรสุทธิใน 3Q19 ที่ 215 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิน้อยลงเมื่อเทียบ 2Q20 ที่ -465 ล้านบาท โดยยังคงขาดทุนต่อเนื่องจากผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้ 1) ธุรกิจโรงแรมยังคงหดตัวลงต่อเนื่องเพราะยังไม่มีการเปิดน่านฟ้า แต่ยังได้นักท่องเที่ยวในประเทศเข้ามาช่วยบ้าง ส่งผลให้ RevPar หดตัวน้อยลงมาอยู่ที่ -81% YoY จาก 2Q20 ที่ -96.5% YoY จาก Occupancy rate อยู่ที่ 20% แต่ Average room rate (ARR) ลดลง -31%YoY
โดยโรงแรมที่เติบโตได้ดียังคงเป็นโรงแรมที่อยู่ในจังหวัดที่ขับรถไปได้อย่างพัทยาและหัวหินเป็นหลัก ขณะที่มัลดีฟส์ยังคงปิดต่ออีกไตรมาสแม้ว่าจะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว แต่ยอด booking น้อยจึงยังไม่เปิดเพราะไม่คุ้มทุน 2) ด้านธุรกิจอาหาร SSSG ลดลงน้อยลงมาอยู่ที่ -20%YoY (เทียบ 2Q20 ที่ลดลง -35.4% YoY) จากการกลับมาเปิดร้านอาหารเกือบครบ 100% และให้นั่งทานในร้านได้ 3) Gross profit margin ลดลงมาอยู่ที่ 36.6% จาก 37.7% ใน 3Q19 เพราะมีการอัดโปรโมชั่นเยอะขึ้นเพื่อกระตุ้นการบริโภค และ 4) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดว่าจะกลับมาเพิ่มขึ้น +36% QoQ จากการกลับมาเปิด 11 โรงแรม (60% จากจำนวนโรงแรมที่เป็นเจ้าของเองทั้งหมด) และร้านอาหารเกือบครบ 100%
ยังคงประมาณการผลการดำเนินงานในปี 2020E เป็นขาดทุนสุทธิที่ –1 พันล้านบาท จากปี 2019 ที่กำไร 1.7 พันล้านบาท โดยเราคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัว QoQ ได้ต่อในช่วง 4Q20E จากทั้งธุรกิจอาหารที่จะเปิดครบ 100% และได้ประโยชน์จากมาตรการช้อปดีมีคืน ธุรกิจโรงแรมจะทยอยเปิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่านักท่องเที่ยวในประเทศจะช่วยหนุนให้มีรายได้เข้ามาได้บ้าง (สัดส่วนนักท่องเที่ยวไทยในปี 2019 อยู่ที่ 15% ของรายได้รวม) รวมถึงที่มัลดีฟส์ที่คาดว่าจะเปิดได้ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.
ยังคงราคาเป้าหมายปี 2021E ที่ 25.00 บาท อิง DCF (WACC 7.6%, terminal growth 2.5%) เทียบเท่า 2.4x PBV โดย CENTEL ได้ประโยชน์จากมาตรการ Special Tourist Visa (STV) และโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ที่เพิ่งต่ออายุจนถึง 31 ม.ค. 2021 และหากมีวัคซีนเข้ามาจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลับมาเดินทางได้ โดยคาดว่ากำไรจะกลับมาที่ระดับปี 2019 ได้ในปี 2024E แต่ยังมีความเสี่ยงจากการระบาดของ COVID-19 ระลอก 2