ตุ๊กตุ๊กอินเดีย ช่วยผู้ป่วยโควิด ส่งโรงพยาบาลฟรี มีถังออกซิเจนด้วย
ตุ๊กตุ๊กอินเดีย - วันที่ 4 พ.ค. เอเอฟพี นำเสนอชีวิตของคนขับรถตุ๊กตุ๊กสามล้ออัตโนมัติในอินเดีย ที่ใช้ยานพาหนะคู่ใจเป็น "รถพยาบาล" เฉพาะกิจในห้วงการระบาดใหญ่รุนแรงของโควิด-19 จนยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นและระบบสาธารณสุขถึงจุดแตกหัก หลังเห็นคนจนต้องแบกหามผู้ป่วยไปโรงพยาบาล เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่ารถพยาบาล
https://www.youtube.com/watch?v=B7P1hunjmvE
นายโมฮัมหมัด ข่าน โชเฟอร์วัย 34 ปี ในนครโภปาล เมืองหลักของรัฐมัธยประเทศ รู้ว่าตัวเองจำเป็นต้องช่วยเหลือ จึงขายเครื่องประดับของภรรยา และแปลงโฉมรถตุ๊กตุ๊กเป็นรถพยาบาลขนาดย่อม ติดตั้งถังออกซิเจน พร้อมเครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือด และเวชภัณฑ์อื่นๆ
“ผู้ป่วยหนักไม่สามารถนำส่งโรงพยาบาลได้หากไม่มีเครื่องผลิตออกซิเจน ผมเลยคิดว่าทำไมไม่เปลี่ยนรถตุ๊กตุ๊กเป็นรถพยาบาล แม้จะไม่กว้างขวางเหมือนรถพยาบาล แต่สามารถช่วยชีวิตได้อย่างแน่นอน
“ผมเห็นคนหนุ่มสาวดิ้นรนโดยไร้ออกซิเจน แม้ตอนโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลก แต่ถูกคิดเงิน 5,000-10,000 รูปี (2,100-4,200 บาท) คนจนจะมีเงินจ่ายที่ไหน โดยเฉพาะในห้วงการระบาดใหญ่ที่ส่วนใหญ่ไม่มีรายได้” นายข่านกล่าว
ถังออกซิเจนและเครื่องวัดออกซิเจนมาจากผู้บริจาคคนหนึ่ง และหมอคนหนึ่งสอนวิธีใช้อุปกรณ์ทั้งสองและจ่ายออกซิเจนอย่างปลอดภัยเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยขณะขับไปส่งโรงพยาบาล
“หลายคนยื่นมือช่วยเหลือผมด้วยของบริจาคต่างๆ และขอให้ผมขับรถต่อไปจนกว่าการระบาดใหญ่จะสิ้นสุด ต้องขอบคุณน้ำใจจากคนมากมาย ผมจึงทำงานนี้ต่อไปได้ ผมไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเองหรอกครับ” นายข่านกล่าว
อย่างไรก็ตาม อินเดีย ทูเดย์ รายงานว่า นายข่านพบปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตั้งข้อหาใช้รถตุ๊กตุ๊กอัตโนมัติโดยไม่ได้รับใบอนุญาตฉุกเฉิน ระหว่างล็อกดาวน์ไวรัสของรัฐมัธยประเทศ แต่สุดท้ายต้องถอนข้อหาและออกบัตรผ่านพิเศษแก่นายข่าน เนื่องจากถูกสื่อสังคมออนไลน์ออกมาตำหนิ
ทั้งนี้ รัฐมัธยประเทศ เหมือนกับรัฐอื่นๆ ที่มีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จนออกซิเจนและเวชภัณฑ์สำคัญๆ ขาดแคลน ไม่รวมถึงปัญหาการเผาศพและสถานที่ฝังศพเพื่อรองรับศพผู้ป่วยจำนวนมากที่ทะลักเข้ามา ขณะที่ผู้ป่วยในรอบ 24 ชั่วโมง มากกว่า 12,000 คน ด้วยทุก 1 ใน 5 คน จะมีผลการผลการตรวจโควิด-19 เป็นบวก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
โควิด: อินเดีย เผยอัตราการติดเชื้อลดลง ส่วนยอดผู้ป่วยสะสมเกิน 20 ล้านคน