ม.ดังลงดาบ รับน้องเสียชีวิต ไล่ออกรุ่นพี่ 15 คน พักการเรียน-ตัด 10 คะแนน
ม.ดังลงดาบ เคาะคำสั่งไล่ออกรุ่นพี่ 15 คน พักการเรียน 10 คน ตัด 10 คะแนน ฐานทำร้ายรุ่นน้องจนเสียชีวิต
จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก ANTI SOTUS เปิดเผยเรื่องราวของ น้องเปรม นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิทยาลัยนวัตกรรมอาชีพ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง จ.นครราชสีมา ถูกรุ่นพี่พาไปรับน้องนอกสถานที่ ก่อนจะเสียชีวิต ในพื้นที่บริเวณทุ่งนาบ้านหนองระเวียง ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เหตุเกิดช่วงกลางคืนวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยผลชันสูตรพลิกศพระบุสาเหตุเสียชีวิตโดยสันนิษฐานหัวใจวายเฉียบพลัน จากการกระทบกระแทกบริเวณทรวงอก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 26 มี.ค. 65 รศ.ดร. โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มทร.อีสาน นครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้ลงนามในคำสั่ง มทร.อีสาน ที่ 0421/2565 เรื่อง ลงโทษวินัยนักศึกษา ตามที่ นักศึกษา ปวส. โปรแกรมวิชาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่และประชุมเชียร์อันเป็นกิจกรรมไม่พึงประสงค์
จากการสอบสวนของคณะกรรมการปกครอง พบมีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 2 เข้าร่วม 67 คน โดยรุ่นพี่ปี 2 สั่งให้รุ่นน้องปี 1 ถอดเสื้อผ้า อีกทั้งยังสลับสับเปลี่ยนกันสั่งการให้ปี 1 หมอบ คลาน ใช้ศีรษะปักพื้น ชกต่อย และใช้เท้าถีบยันนักศึกษาปี 1 จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นความผิดตามระเบียบว่าด้วยการควบคุมความประพฤติของนักศึกษา และเป็นการฝ่าฝืนประกาศมหาวิทยาลัยฯ เรื่องการงดจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่และประชุมเชียร์
จึงออกคำสั่งมหาวิทยาลัยฯ เรื่องการลงโทษวินัยนักศึกษา ดังนี้ นักศึกษารุ่นพี่ ปวส. ปี 2 จำนวน 15 ราย ผู้ร่วมการฝ่าฝืน วางแผน สั่งการ ควบคุมการดำเนินกิจกรรม ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยการใช้ไม้ฟาด ชกต่อย และใช้เท้าถีบยัน เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีความผิดตามระเบียบ มีโทษให้ออกขณะเดียวกัน ยังสั่งให้ลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 อีก 10 ราย ฐานมีส่วนร่วมในการวางแผน สั่งการ ควบคุมการดำเนินกิจกรรม ให้รุ่นน้องปี 1 ถอดเสื้อผ้า หมอบ คลาน และใช้ศีรษะปักพื้น
เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ มีโทษผลการสอบของภาคการศึกษานั้นเป็น “โมฆะ” โดยให้บันทึกผลการศึกษาเป็น “W”และลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 ที่เหลืออีก 5 ราย ฐานความผิดเป็นผู้ที่ทราบว่าจะมีการจัดกิจกรรม ตั้งแต่การวางแผน การนัดหมาย การเดินทาง ตลอดจนดำเนินกิจกรรม จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งที่ทราบกิจกรรมดังกล่าวขัดต่อประกาศมหาวิทยาลัยฯ แต่กลับไม่ได้ห้ามปรามหรือแจ้งอาจารย์ หรือผู้เกี่ยวข้องทราบเพื่อเข้าระงับเหตุ
เป็นการร่วมกันสนับสนุนให้เกิดกิจกรรม ให้ลงโทษตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน พร้อมแจ้งผู้ปกครองให้ทราบนอกจากนี้ ยังสั่งลงโทษนักศึกษา ปี 1 จำนวน 37 ราย ฐานความผิดมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมไม่พึงประสงค์ เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องอันเป็นการขัดต่อประกาศของมหาวิทยาลัย ให้ลงโทษตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน พร้อมแจ้งผู้ปกครองให้ทราบ อย่างไรก็ตาม นักศึกษาที่มีบทลงโทษ สามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 15 วัน โดยคำสั่งลงโทษมีผลตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 65
อธิการบดี มทร.อีสาน กล่าวว่า บทลงโทษจากทางมหาวิทยาลัยฯ คนละส่วนกับโทษทางอาญา โดยบทลงโทษให้ออกนักศึกษารุ่นพี่ 15 คน ทุกคนจะต้องมาเขียนใบลาออก และสามารถนำผลการเรียนของปี 1 ไปใช้ประโยชน์สมัครเข้าเรียนต่อได้ ถือเป็นโทษขั้นสูงใกล้เคียงกับไล่ออก แต่นักศึกษากลุ่มนี้ยังมีทางเดินทางการศึกษาในอนาคตแต่หากต้องมองไปถึงโทษทางคดีอาญาที่ตำรวจแจ้งข้อหารุ่นพี่กลุ่มนี้ 7 คน ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
ซึ่งทั้ง 7 คนรับสารภาพ มีการถูกเนื้อต้องตัว “น้องเปรม” จนถึงแก่ความตาย โทษในคดีอาญาอาจรุนแรงถึงขั้นขนาดตัดสินอนาคตของเด็กกลุ่มนี้ บทลงโทษที่คณะกรรมการปกครองพิจารณาแล้วนั้น จะเป็นมาตรฐานของมหาวิทยาลัยและเป็นกรณีศึกษาสำหรับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ มหาวิทยาลัยฯ ได้รับความบอบช้ำจากเหตุการณ์นี้
ยอมรับสภาพกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะวางแนวทางแก้ไขให้ดีที่สุด เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในอนาคต ส่วนการช่วยเหลือครอบครัว “น้องเปรม” มีกลุ่มศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยฯ มอบเงินเยียวยา 4 แสนบาท ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยได้ตั้งกองทุนเบื้องต้น 4 แสนบาท ช่วยเหลือน้องสาวของน้องเปรม ให้ได้รับทุนเรียนจนจบปริญญาตรี และช่วยเหลือแฟนสาวของน้องเปรม ให้เรียนจบปริญญาตรี