วิจัยชี้สหรัฐลดผู้เสียชีวิตจากโควิดได้หลายหมื่น หากล็อคดาวน์เร็วขึ้น

วันนี้ ( 22 พ.ค. 63 )ผลการศึกษาชิ้นหนึ่ง ประเมินว่า สหรัฐอาจลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้มากถึง 36,000 คน หากประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์เร็วขึ้น 1 สัปดาห์ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยการวิจัยของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ยูนิเวอร์ซิตี ประเมินด้วยว่า ผู้เสียชีวิตประมาณ 83 เปอร์เซ็นต์ อาจหลีกเลี่ยงได้ หากมาตรการคุมเข้มต่าง ๆ บังคับใช้เร็วขึ้นอีก 2 สัปดาห์ และยังอาจลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้ 54,000 คน หากหลายเมืองเริ่มล็อคดาวน์ในวันที่ 1 มีนาคม 

การศึกษาชิ้นนี้ ซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติม ครอบคลุมข้อมูลจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม ซึ่งชี้ให้เห็นด้วยว่า จะมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพียง 65,300 คนในสหรัฐ แต่ขณะนี้ จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ พบว่า สหรับมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะนี้แล้วมากกว่า 94,500 คน

นอกจากนี้ ผลของการศึกษายังชี้ด้วยว่า การบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดกว่านี้ อาจทำให้ได้ผลมากขึ้น หลักฐานต่าง ๆ ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญในการแทรกแซงและตอบโต้เชิงรุกให้เร็วกว่านี้ เพื่อควบคุมไวรัส 

ขณะที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เรียกร้องให้ประชาชนจำกัดการเดินทางในวันที่ 16 มีนาคม หรือ 5 วันหลังจากองค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ ประกาศให้การระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก แต่ละรัฐเริ่มใช้มาตรการล็อคดาวน์ในเวลาที่แตกต่างกัน โดยแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์ก ล็อคดาวน์ในวันที่ 19 มีนาคม และ 22 มีนาคม ตามลำดับ ขณะที่จอร์เจียเป็นหนึ่งในรัฐท้าย ๆ ที่บังคับใช้มาตรการล็อคดาวน์ ในวันที่ 3 เมษายน

มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ว่าบกพร่องและล่าช้าในการตรวจหาเชื้อ ขณะที่รัฐต่าง ๆ ก็มีข้อมูลที่จำกัดเกี่ยวกับขอบเขตของการระบาดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และต้นเดือนมีนาคม ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์เองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความเสี่ยงการระบาดของไวรัสในช่วงเวลาดังกล่าว   

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับผลการวิจัยเมื่อวันพฤหัสบดี ก่อนเดินทางเยือนรัฐมิชิแกน ทรั้มป์กล่าวว่า เขาดำเนินการอย่างเร็วมากแล้ว เร็วกว่าที่หลาย ๆ คนคิดด้วยซ้ำ 

แม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์อ้างว่า ผลการศึกษาดังกล่าวเป็นการโจมตีเขาทางการเมือง แต่หลักฐานต่าง ๆ ก็เพิ่มคำถามสำหรับนักการเมืองคนอื่น ๆ เกี่ยวกับช่วงเวลาที่พวกเขาบังคับใช้คำสั่งพักอยู่ที่บ้าน หรือ stay-at-home ด้วยเช่นกัน 

รัฐนิวยอร์กเป็นศูนย์กลางของการระบาดในสหรัฐ และเป็นรัฐที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 28,000 คน และติดเชื้อกว่า 360,000 คน แม้ว่าโรงเรียนต่าง ๆ ในนิวยอร์กซิตี้ปิดในวันที่ 15 มีนาคม ก่อนการประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์ทั้งรัฐ 1 สัปดาห์ 

แต่เมื่อถูกถามเกี่ยวกับผลการวิจัยใหม่ชิ้นนี้ นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ก็ยอมรับว่า หากเมืองนี้รู้เร็วขึ้นและมากกว่านี้ เราจะสามารถรักษาชีวิตของประชาชนได้มากกว่านี้ 

เกาะติดข่าวที่นี่ 

website: www.TNNThailand.com  

facebook : TNNThailand 

twitter : @TNNThailand 

Line : @TNNThailand 

Youtube Official : TNNThailand