สทนช. รับมือมวลน้ำมหาศาล “พายุวิภา” - เฝ้าระวังพื้นที่ลุ่มน้ำยม - น่าน

สทนช. ตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำชั่วคราวที่สุโขทัย รับมือฝนจากพายุ “วิภา”
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เดินหน้ารับมือสถานการณ์น้ำหลากและอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ จากอิทธิพลของพายุ “วิภา” และปริมาณฝนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้ง ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) เพิ่มเติมใน พื้นที่ลุ่มน้ำยม - น่าน จังหวัดสุโขทัย หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดศูนย์ฯ ลักษณะเดียวกันที่จังหวัดหนองคาย และเชียงราย
เพิ่มความพร้อมในพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. ระบุว่า การจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำชั่วคราวที่ จ.สุโขทัย มีเป้าหมายเพื่อเสริมความพร้อมในพื้นที่ลุ่มน้ำยม - น่าน ซึ่งถือเป็นพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย โดยเฉพาะช่วงที่พายุวิภาส่งผลให้ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทยในช่วงวันที่ 23 - 31 กรกฎาคมนี้
เตรียมรับมืออ่างเก็บน้ำระดับใหญ่รับน้ำมหาศาล
สทนช. คาดการณ์ว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่หลายแห่งจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น
- เขื่อนสิริกิติ์ รับน้ำเข้า 1,373 ล้าน ลบ.ม.
- เขื่อนวชิราลงกรณ 1,267 ล้าน ลบ.ม.
- เขื่อนศรีนครินทร์ 472 ล้าน ลบ.ม.
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเร่ง พร่องน้ำล่วงหน้า เพื่อจัดสรรพื้นที่รองรับน้ำหลากและเตรียมความพร้อมหากมีสถานการณ์วิกฤต
เฝ้าระวังแม่น้ำสายหลักตอนบน
ในขณะเดียวกัน แม่น้ำหลายสายตอนบน เช่น แม่น้ำสาย, แม่น้ำอิง, แม่น้ำกก, แม่น้ำปิง, วัง, ยม, น่าน และแม่น้ำโขง มีแนวโน้ม ระดับน้ำเพิ่มขึ้น โดยบางจุดอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง เช่น
- - แม่น้ำสาย จ.เชียงราย บริเวณสะพานมิตรภาพไทย–เมียนมา
- - แม่น้ำปิง บริเวณสะพานนวรัฐ จ.เชียงใหม่
อย่างไรก็ตาม หลายจุดยังอยู่ในระดับปกติแต่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
น้ำจากภาคเหนือไหลลงสู่เจ้าพระยา - เพิ่มการระบายน้ำ
ขณะนี้ ปริมาณน้ำจากลุ่มน้ำต่าง ๆ ทางภาคเหนือได้ไหลลงมาสู่ จ.นครสวรรค์ มากขึ้น ส่งผลให้ต้อง เพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เป็นอัตรา 700 - 1,200 ลบ.ม./วินาที โดยกรมชลประทานได้วางแผนควบคุมให้สอดคล้องกับสถานการณ์พื้นที่ต้นน้ำ และคำนึงถึงปัจจัยน้ำทะเลหนุน พร้อม แจ้งเตือนประชาชนท้ายเขื่อนล่วงหน้า หากมีการปรับการระบาย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
