รีเซต

เทียบสถานการณ์น้ำท่วมปี 54 และปี 68

เทียบสถานการณ์น้ำท่วมปี 54 และปี 68
TNN ช่อง16
13 พฤศจิกายน 2568 ( 10:12 )
2

การพิจารณาว่าน้ำจะท่วมกทม.หรือไม่ สามารถพิจารณาเบื้องต้นได้จาก “การปรับอัตราการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา” เพราะถือเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารน้ำเหนือลงมาสู่ภาคกลาง ซึ่งหากเขื่อนเจ้าพระยามีการปรับการระบายน้ำเกิน 2,840 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล 

เมื่อ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา เขื่อนเจ้าพระยา มีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง  แต่ต้องปรับเพิ่มการระบาย เพื่อระบาย “น้ำเหนือ” จากเขื่อนภูมิพลที่สะสมมาจากพายุ “คัลแมกี” ลงมา และเมื่อมาเจอกับระดับน้ำทะเลที่หนุนสูงในช่วงนี้ เลยทำให้การระบายน้ำออกลงสู่ทะเล จึงเป็นไปค่อนข้างช้า โดยน้ำทะเลจะหนุนสูงไปจนถึงวันที่ 14 พ.ย.นี้ 

ด้านกรมชลประทานชี้แจงว่า นี่เป็นมวลน้ำเหนือก้อนสุดท้ายแล้วที่จะไหลลงมายังภาคกลาง ซึ่งถ้าหากไม่มีฝนตกลงมา สถานการณ์จะเริ่มบรรเทา และเมื่อผ่านพ้นช่วงระดับน้ำทะเลหนุนสูงไปแล้ว การระบายน้ำจะเป็นไปได้ดีขึ้น คาดว่าสถานการณ์ในส่วนของพื้นที่ริมน้ำในกรุงเทพมหานคและปริมณฑล ในสัปดาห์นี้น้ำจะขึ้นบ้าง และท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำเป็นบางจุด อาจต้องใช้เวลาประมาณ 5-6 วัน

แต่ด้านสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สทนช. ยืนยันกทม.ไม่ท่วมซ้ำรอยปี 54 เพราะปีที่น้ำท่วมนั้น มีการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาสูงถึง 3,726 ลบ.ม./วินาที ถือว่ายังต่ำกว่าปี 54 ถึง 800 ลบ.ม./วินาที จึงทำให้ชาวกรุงเทพฯยังไม่ต้องวิตกมากนัก

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง