เงินบาทเช้านี้ 30 มิ.ย. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” 

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนจาก Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ระดับ 32.65 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทยังเคลื่อนไหวในลักษณะไร้ทิศทาง (Sideways) สอดคล้องกับค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุนชัดเจน

กรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้อยู่ที่ 32.25–33.00 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่กรอบรายวันคาดการณ์ไว้ระหว่าง 32.55–32.75 บาทต่อดอลลาร์ โดยนักลงทุนต่างรอข้อมูลสำคัญจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะรายงานตลาดแรงงาน รวมถึงพัฒนาการของร่างกฎหมาย “One Big Beautiful Bill Act” ในสภาคองเกรส ขณะเดียวกันสถานการณ์การเมืองไทยก็ถูกจับตามอง โดยเฉพาะการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 1 กรกฎาคม ว่าจะรับคำร้องถอดถอนนายกรัฐมนตรีไว้พิจารณาหรือไม่

นักวิเคราะห์ประเมินว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ อาจทำให้เงินบาทเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่า โดยเฉพาะหากนักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยลดการถือครองสินทรัพย์ไทย อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของเงินบาทยังขึ้นกับปัจจัยภายนอกเป็นหลัก โดยเฉพาะทิศทางดอลลาร์และราคาทองคำ หากไม่มีการปรับตัวแรงของดอลลาร์หรือทองคำ เงินบาทอาจอ่อนค่าได้ในวงจำกัด

เทคนิคแนวรับ-แนวต้านสำคัญของเงินบาท

แนวต้านที่ต้องจับตาคือบริเวณ 32.65–32.75 บาทต่อดอลลาร์ หากทะลุ 32.90–33.00 บาท อาจเข้าสู่แนวโน้มอ่อนค่าใหม่ ขณะที่แนวรับอยู่ที่โซน 32.30–32.40 บาท และแนวรับถัดไปที่ 32.10 บาท

คำแนะนำเชิงกลยุทธ์

Krungthai GLOBAL MARKETS แนะนำให้ผู้เล่นในตลาดเลือกใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การทำสัญญา Forward และ Options โดยเฉพาะในช่วงที่เงินบาทผันผวนจากทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ

ปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้

สหรัฐอเมริกา

– รายงานตลาดแรงงานเดือนมิถุนายน (Nonfarm Payrolls, อัตราว่างงาน, JOLTS)
– รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต/บริการ (ISM)
– ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ซึ่งอาจส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ย โดยตลาดคาดว่าเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

ยุโรป

– รายงานเงินเฟ้อ CPI เดือนมิถุนายน
– การประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยจากเจ้าหน้าที่ ECB และ BOE

เอเชีย

– จีน: รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการ (Official & Caixin)
– ญี่ปุ่น: รายงาน BOJ Tankan Survey ภาวะธุรกิจไตรมาส 2

ไทย

– การพิจารณารับคำร้องถอดถอนนายกรัฐมนตรีในวันที่ 1 ก.ค. โดยศาลรัฐธรรมนูญ
– รายงานยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤษภาคม
– ดัชนี PMI และความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (Business Sentiment Index) เดือนมิถุนายน

ทั้งนี้ Krungthai GLOBAL MARKETS มองว่า ความเคลื่อนไหวของเงินบาทจะยังผันผวนตามกระแสข่าวต่างประเทศ และแรงกดดันทางการเมืองภายในประเทศ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยชี้ขาดสำคัญในระยะสั้น