รีเซต

เปิดข้อมูลความเสี่ยงน้ำท่วมกทม. ปี 54 VS ปี 64 มีโอกาสซ้ำรอยหรือไม่

เปิดข้อมูลความเสี่ยงน้ำท่วมกทม. ปี 54 VS ปี 64 มีโอกาสซ้ำรอยหรือไม่
TNN ช่อง16
30 กันยายน 2564 ( 13:54 )
148

วันนี้ ( 30 ก.ย. 64 )พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เปิดเผยข้อมูล เปรียบเทียบความเสี่ยงน้ำท่วมในเขตกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า กทม.ตั้งอยู่ตอนปลายของแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นที่รวมของแม่น้ำหลายสายมารวมกัน ในช่วงหน้าฝนเมื่อเกิดฝนตกสะสมทางตอนบนของประเทศ ปริมาณน้ำที่ไหลมาตามแม่น้ำสายหลัก ได้แก่ แม่น้ำปิง วัง ยม น่าน จะเพิ่มมากขึ้น และเมื่อไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา จะมีปริมาณน้ำเป็นจำนวนมากทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น  ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะถูกควบคุมการระบายน้ำโดยเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท หากปริมาณน้ำเหนือเขื่อนมีมาก การระบายน้ำก็จะเพิ่มสูงขึ้น แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี ก็เป็นเส้นทางน้ำที่ไหลมารวมกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.อยุธยา โดยมีเขื่อนพระราม 6 ควบคุมการระบายน้ำ

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเขื่อนทั้ง 2 แห่งมีการระบายน้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน กทม. หลายคนกังวลจะเกิดน้ำท่วม กทม. เหมือนปี 2554 

ปัจจัยที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในปี 2554 นั้น เกิดจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุที่เข้ามาในประเทศไทยหลายลูก มีปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักสูงกว่าในตอนนี้มากพอสมควร เมื่อเทียบปริมาณน้ำในปีนี้แล้วใกล้เคียงกับปี 2563 ซึ่งใน กทม.ก็ไม่มีน้ำท่วมตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา

จากน้ำท่วมปี 2554 กทม.ได้เสริมคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้สูงขึ้น เพื่อรองรับปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น แต่ยังมีจุดที่อาจจะเกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ได้ ที่เป็นชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ซึ่ง กทม.ได้วางกระสอบทราย เป็นคันกั้นน้ำ และเตรียมเครื่องสูบน้ำไว้พร้อมแล้ว

กทม.เตรียมพร้อมรับมือปริมาณน้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีสถานีวัดระดับน้ำตลอดแนวแม่น้ำ เพื่อเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตลอด 24 ชั่วโมง หากเพิ่มสูงขึ้นจนมีความเสี่ยง กทม.จะแจ้งให้ประชาชนที่อยู่ในจุดเสี่ยงทันที 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง