รีเซต

ปิดประตูตีจีน "Temu - Shein" กลายเป็นร้านขายของแพงทันที เมื่อเจอ"ภาษีทรัมป์"

ปิดประตูตีจีน "Temu - Shein" กลายเป็นร้านขายของแพงทันที เมื่อเจอ"ภาษีทรัมป์"
TNN ช่อง16
9 พฤษภาคม 2568 ( 08:00 )
17

สั่งสินค้าซื้อของจากจีนเป็นเรื่องง่ายสำหรับยุคนี้

ผ่าน E-Commerce หลายเจ้าที่มีให้เลือกมากมาย

อาจจะต้องรอนานหน่อย แต่ว่าราคาถูกแสนถูก

รวมไปถึงอเมริกาก็มี ชีอิน (Shein)  และ เทมู (Temu ) ที่เป็นที่นิยม 

แต่จับตาให้ดีและหลังจากนี้ไป อาจจะถึงจุดจบของสินค้าจีนในอเมริกาแล้วก็เป็นได้ 

เพราะทรัมป์สกัดด้วยภาษีสูงลิบลิ่ว เช่น ผ้าขนหนูจากจีน จากผืนละสี่สิบ กลายเป็นสองร้อยบาท

ของถูกๆกลายเป็นของราคาปกติได้เลยทันที แถมต้องมารอนานอีก แล้วใครจะสั่ง ?  

  

สินค้าในสหรัฐกำลังปั่นปวน เราอาจจะได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

โดยเฉพาะราคาที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น หรือแพงขึ้นทุกอย่าง 

รวมไปถึงปรากฎการณ์ของขาดตลาด หรือของหายเกลี้ยงจากชั้นวางสินค้า

เพราะคนแตกตื่นพาไปกันซื้อกักตุนไว้หลายอย่างแล้ว โดยเฉพาะของที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

และแน่นอนที่สุด ที่หนักที่สุดคือบรรดาสินค้าจากเมืองจีนที่โดนจัดเก็บภาษีนำเข้ามหาโหด

จากโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ 


Temu  และ Shein อีคอมเมิร์ซระดับโลกจากจีน ยักษ์แห่งตลาดฟาสต์แฟชั่น

ที่ขายของสารพัดสิ่งในราคาถูก ส่งตรงจากเมืองจีนสู่หน้าบ้านชาวอเมริกัน

ล่าสุดมีรายงานข่าวว่าปรับขึ้นราคาแล้วครั้งใหญ่ช็อกคน


ข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า Temu และ Shein 

ก่อนหน้านี้มียอดขายฟื้นตัวในเดือน มีนาคม และต้นเดือน เมษายนที่ผ่านมา 

เนื่องจากลูกค้าชาวอเมริกันพากันสั่งซื้อสินค้าล็อตใหญ่

เพื่อเอามากักตุน ซึ่งมีสินค้าทุกอย่างตั้งแต่แปรงแต่งหน้าไปจนถึงเครื่องใช้ในบ้าน

หวังว่าจะประหยัดเงินก่อนที่ภาษีศุลกากรจะปรับขึ้น และอาจทำให้ราคาแพงจนสู้ไม่ไหว 

กระทั่งจนต่อมาทั้งสองบริษัทได้ประกาศว่า จะปรับขึ้นราคาสินค้าในสหรัฐฯแล้ว

โดยในประกาศที่ออกมาในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาระบุว่า 

เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎระเบียบ และภาษีการค้าระหว่างประเทศ 

ต้นทุนในการดำเนินงานจึงเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งหมดนี้มาจากนโยบายของรัฐบาล โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ

ได้สั่งให้มีการยกเลิกข้อยกเว้น “de minimis”

ซึ่งเป็นกฎหมายที่ช่วยให้คนอเมริกันสั่งสินค้าขนาดเล็ก ที่ราคาไม่แพง ตรงจากต่างประเทศ

โดยเฉพาะเมืองจีน เข้ามาได้ในรูปแบบพัสดุโดยที่ไม่ต้องเสียภาษี เป็นส่วนหนึ่งของมาตรา 321 

ของกฎหมายศุลกากรสหรัฐ  อนุญาตให้มีการนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่า

น้อยกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐโดยไม่ต้องเสียภาษี 

เป็นช่องว่างหรือช่องทางสำคัญที่ทำให้อีคอมเมิร์ซของจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงสามปีที่ผ่านมา

แต่ตอนนี้ de minimis กฎหมายนี้ถูกยกเลิกไปแล้วตั้งแต่ 2 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา 

ซึ่งหมายความว่า สินค้าของ Shein Temu และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามแดนอื่นๆ 

จะต้องเจอกับภาษีถึง 120% หรือบวกไป 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือ 3,300 บาท) ต่อชิ้น 

แถมอาจจะยังไม่จบแค่ตัวเลขนี้ เพราะทรัมป์ได้สั่งให้เพิ่มอัตราภาษีพัสดุนำเข้าขึ้นไปอีกในวันที่ 1 มิถุนายนนี้


แถลงการณ์ของ Shein ระบุว่า 

“เพื่อที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่คุณชื่นชอบได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ลดทอนคุณภาพ 

เราจะปรับราคาเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. 2025” 

และนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าอย่างน่าตกใจ สูงสุดถึง 377 %

สินค้าหมวดความงามและสุขภาพ พบว่าแพงขึ้นเฉลี่ย 51%

ส่วนสินค้าของใช้ในบ้าน ในครัว และของเล่น โดยเฉลี่ยแพงขึ้น 30% 

ขณะที่สินค้าเสื้อผ้าผู้หญิง แพงขึ้นเฉลี่ย 8%

เช่น  ผ้าขนหนู แพงขึ้น 377% จาก 1.28 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 40 กว่าบาท 

ราคาพุ่งขึ้นกลายเป็น 6.10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 200 กว่าบาท


ส่วน Temu เริ่มเก็บ "ค่าธรรมเนียมนำเข้า" เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 130% ถึง 150% 

สำหรับสินค้าที่จัดส่งโดยตรงจากจีน ทำให้ราคาสินค้าปลายทางพุ่งสูงขึ้นกว่าเท่าตัว

เช่น  ชุดเดรสสำหรับซัมเมอร์ที่เคยมีราคาเพียง 18.47 ดอลลาร์สหรัฐ 

ปัจจุบันมีราคารวมอยู่ที่ 44.68 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากบวกค่าธรรมเนียม 26.21 ดอลลาร์สหรัฐเข้าไป 

ชุดว่ายน้ำเด็กลายการ์ตูน จาก 12.44 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 31.12 ดอลลาร์สหรัฐ 

ดังนั้นจากเดิมที่เคยมองว่าเป็นแอพที่ขายสินค้าราคาถูก 

ก็กลับกลายว่าเป็นพื้นที่ขายของที่มีราคาสินค้าปกติทั่วไปแล้ว


เมื่อของถูกกลายเป็นของแพง

แล้วใครจะซื้อ ?

นี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ

ที่มาเขย่าจุดแข็งของอีคอมเมิร์ซจากจีน

จากที่เคยมาตีตลาดสหรัฐจนสะเทือน 

วันนี้โดนตีกลับอย่างแรงจนหัวหมุน

แต่จะบอกว่าคนที่เดือดร้อนอย่างหนักไม่ใช่แค่ธุรกิจจีน

แต่เป็นคนอเมริกันด้วยนั่นเอง    

สินค้าราคาถูกกว่าปกติในท้องตลาด 

เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แพลตฟอร์ม E - Commerce จากจีน 

ได้รับความนิยมอย่างสูงในอเมริกานับตั้งแต่ปี 2565 

โดยผู้บริโภคจำนวนมากแห่ซื้อสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า 

และของใช้ในบ้านราคาประหยัด สั่งแล้วก็ยอมรอ แม้จะต้องรอสินค้านานกว่าปกติ


วันนี้เมื่อภาษีทำให้ราคาสินค้าขยับขึ้นมาใกล้เคียงกับคู่แข่งรายใหญ่อย่าง

อะเมซอน (Amazon), วอลมาร์ท (Walmart) และทาร์เก็ต (Target) 

ประกอบกับการจัดส่งที่ยังคงใช้เวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์ 

แอพจากจีนจึงมีความเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะสูญเสียลูกค้าไป


เสียงสะท้อนจากลูกค้าปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนบนโลกออนไลน์ 

โดยในฟอรัมยอดนิยมอย่างเรดดิท (Reddit) มีการโพสต์แสดงความไม่พอใจต่อราคาที่ “พุ่งสูงขึ้น” 

และตั้งข้อสังเกตว่ายุคทองของเทมูอาจกำลังจะสิ้นสุดลง 

ด้านข้อมูลจากเซนเซอร์ ทาวเวอร์ (Sensor Tower) ยังชี้ว่า 

Temu ได้ลดงบโฆษณาในสหรัฐฯ ลง และอันดับความนิยมของแอปพลิเคชันในแอปสโตร์ (App Store) 

ของแอปเปิ้ล (Apple) ก็ร่วงลงจาก 10 อันดับแรกไปอยู่ที่อันดับ 73 

ส่วน Shein ตกลงจากอันดับ 15 ไปอยู่ที่อันดับ 54


เพื่อลดผลกระทบจากค่าธรรมเนียมใหม่ 

เทมูพยายามกระตุ้นให้ลูกค้าหันไปเลือกซื้อสินค้าที่จัดเก็บอยู่ในคลังสินค้าภายในสหรัฐฯ แทน

โดยสินค้าเหล่านี้จะมีป้ายกำกับพิเศษเพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า “ไม่มีค่าธรรมเนียมนำเข้า” 

การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์มาเน้นการกระจายสินค้าภายในประเทศนี้ถือเป็นความพยายามของเทมู

ที่จะรักษาจุดยืนด้านความคุ้มค่า 

ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าที่กำลังส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีกทั่วโลก

ขณะเดียวกันการขึ้นราคาในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากนโยบาย

การเก็บภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 

ซึ่งสุดท้ายแล้วกลับทำให้คนอเมริกันต้องมากลายเป็นเหยื่อที่ต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการนำเข้าสินค้าข้ามแดน

เพาะไมใช่แค่ตลาดออนไลน์หรือพัสดุข้ามประเทศ

แต่ตอนนี้ยังมีสินค้าที่วางขายในประเทศอีกมากมายที่กำลังจะมีราคาแพงขึ้นจากภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีทรัมป์

ซีเอ็นบีซี รายงานข้อมูลของบริษัทจัดการสินทรัพย์ Apollo ระบุว่ามาตรการภาษีจะทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น 

และสิ่งที่แย่ยิ่งกว่าคือ สินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันขาดแคลน และไม่มีขาย 

โดยชั้นวางสินค้าในร้านค้าบางแห่งในสหรัฐอาจจะต้องเผชิญกับความว่างเปล่าภายในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้แล้ว 


อีคอมเมิร์ซจากจีนบุกไปตีมาแล้วทั่วโลก

วันนี้เจอศึกใหญ่ในอเมริกากับด่านกำแพงภาษีของทรัมป์

จะหนักหรือสู้ไหวแค่ไหน หรือถึงขั้นกลายเป็นจุดจบ 

จับตากันให้ดี

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง