รีเซต

กัญชาฟีเวอร์ยันวันสุดท้าย งานบุรีรัมย์ ทะลัก8หมื่นคน-เชื่อทำเงินได้มหาศาล

กัญชาฟีเวอร์ยันวันสุดท้าย งานบุรีรัมย์ ทะลัก8หมื่นคน-เชื่อทำเงินได้มหาศาล
มติชน
13 มิถุนายน 2565 ( 08:33 )
112
กัญชาฟีเวอร์ยันวันสุดท้าย งานบุรีรัมย์ ทะลัก8หมื่นคน-เชื่อทำเงินได้มหาศาล

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศวันสุดท้ายของการจัดงาน “มหกรรม 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร” ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า บรรยากาศในบริเวณการจัดกิจกรรม จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุรีรัมย์ ภายใต้แนวคิด กัญชาคืนชีวิตสร้างเศรษฐกิจให้ประชาชน ระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้กัญชา-กัญชง เชิงการแพทย์ สำหรับการดูแลสุขภาพ และกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังคงคึกคักต่อเนื่องเป็นวันที่สาม

 

มีประชาชนจาก จ.บุรีรัมย์ จังหวัดข้างเคียง และหลากหลายภูมิภาค อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) แพทย์ พ่อแม่และลูกที่เดินทางมาเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน ผู้ประกอบการ ไปจนถึงเกษตรกรผู้ที่สนใจเกี่ยวกับกัญชา พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศไทย เดินทางเข้าไปลงทะเบียนเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเข้าชมนิทรรศการบูธของหน่วยงานต่างๆ หาความรู้จากการสัมนาเต็มห้อง รวมทั้งต่อคิวรับแจกต้นกล้ากัญชาตามที่กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) นำไปแจกฟรีวันละประมาณ 300 ต้น ตลอดการจัดงานทั้ง 3 วัน พร้อมจดแจ้งปลูกกัญชา บริเวณบูธของอย.

 

รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) กล่าวในเวทีสัมมนาในหัวข้อ “งานวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ปลายน้ำจาก CBD” ว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 425 เน้นเรื่องน้ำมันกัญชงอย่างเดียว มีรายละเอียดมาก กฎกระทรวงฉบับแรกๆ รายละเอียดจะค่อนข้างเยอะ น้ำมันจากเมล็ดมีอะไรในนั้น เพราะไม่มีทั้ง THC CBD เวลาปลูก ปลูกแบบเอาต์ดอร์ บนภูเขา เป็นท้องทุ่ง ให้ตัวเมียตัวผู้ผสมกัน แต่ถ้าเอา CBD ต้องปลูกเฉพาะตัวเมีย

 

“ที่ออสเตรเลียเก็บเกี่ยวโดยใช้รถ จากนั้นเอาเมล็ดมาเข้าโรงงาน กับเมล็ดส่งโรงบีบ (กลั่น) น้ำมัน ไม่ต้องขออนุญาตเหมือนกับโรงผลิต CBD ต้องขออนุญาตจากอย. ประกาศฉบับที่ 425 ควบคุมอยู่ เมื่อบีบออกมาได้น้ำมัน จากนั้นกรองให้ใสปิ๊ง เรียกว่า น้ำมันเฮมป์ ซีด ออยล์ (Hemp Seed Oil) ราคาลิตรละ 15,000 บาท CBD กิโลกรัมละ 300,000 บาท เอามาทำอาหาร หรือเครื่องดื่ม ไอศกรีมได้ ต้านอนุมูลอิสระสูง ใส่ในซอฟต์เจลก็ได้ กากที่ได้เอาไปทำซุปเปอร์โปรตีน เอาไปนึ่งทานเหมือนข้าว ฝรั่งชอบมาก เอาไปทำซีเรียลก็ได้ กลายเป็นรสชาติแบบไทย หรือไปทำแบบเครื่องสำอาง อย่าง พิมรี่พายขายเครื่องสำอางจากเฮมป์ ซีด ออยล์ เป็นสบู่ แชมพูเยอะไปหมด มูลค่าทางการตลาดพอสมควร ถ้าหากจะพัฒนาไปแนวนี้ให้ดูประกาศ สธ.ฉบับที่ 425” รศ.วีรชัยกล่าว

 

รศ.วีรชัย กล่าวว่า ของกินส่วนใหญ่จะใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย มูลค่าของตลาดสหรัฐอเมริกา มูลค่า 278 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 30,000 ล้านบาท แต่เครื่องดื่มไทย มูลค่ากว่า 50,000 ล้าน เพราะไทยอยู่ในเขตร้อน อีกอย่างที่ขายดีมากหากใครจะทำ คือ น้ำมัน CBD ทำได้ง่าย หยดทุกวัน 5 มิลลิกรัม หยดใต้ลิ้นแล้วดื่มน้ำ โดยเอาน้ำมันมะกอกมาละลายในกัญชาขนาด 10 มิลลิกรัม จะได้ CBD Oil 1,000 มิลลิกรัม 1 หยด มี 5 มิลลิกรัม แต่งสีแต่งกลิ่นได้ เพราะถูกต้องตามกฎหมาย กิน 15 วัน ไปตรวจ ลดน้ำตาลในเลือดได้ คือ อิทธิฤทธิ์ของ CBD ต้นทุนตกขวดละ 300-400 บาท ใช้ดี คนก็จะมาซื้อซ้ำ
“เครื่องสำอางขึ้นทะเบียนอย.ได้ มูลค่าส่งออก 200,000 ล้านบาท ผมตกใจ คนไทยเราใช้เครื่องสำอางเยอะขนาดนี้เชียวหรือ อย่างมาม่ากับยาดม อะไรมูลค่าสูงกว่ากัน สรุปยาดม รวยนิ่มๆ รวยเงียบๆ ยิ่งเอาไปใส่เทอร์พีนกัญชา ยิ่งเพิ่มมูลค่าไปอีก แต่โชคไม่ดีที่ถูกย้ายไปควบคุมตามมาตรฐานยา การใช้กัญชง กัญชาในเครื่องสำอาง ใช้น้ำมันส่วนของกัญชาและกัญชงได้ CBD ใช้ได้โดยยึดกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 4 ฉบับ” รศ.วีรชัยกล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพรวมของการจัดงานมหกรรมกัญชา 360 องศาครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากผู้คนเข้าร่วมงาน 3 วันสูงถึง 8 หมื่นคน และมีผู้เข้าชมทางออนไลน์กว่า 2 แสนราย มีเงินสะพัดภายในงานประมาณ 7 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง