กรุงเทพฯ ครองอันดับ 6 เมืองที่ดีที่สุดในโลกด้านอาหาร จากนิตยสารดัง Time Out
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ปลื้มข่าวดี “Time Out” นิตยสารอันดับโลกด้านไลฟ์สไตล์ ประกาศว่า ไทยครองอันดับ 6 ของโลก ในหมวดหมู่ The world’s 20 best cities for food หรือ 20 เมืองที่ดีที่สุดในโลกในด้านอาหาร (https://www.timeout.com/travel/worlds-best-cities-for-food)
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านิตยสาร Time Out ชั้นนำระดับโลกด้านการแนะนำไลฟ์สไตล์ สถานที่ท่องเที่ยว เเละนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดของเมืองในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับ วัฒนธรรม การเดินทาง อาหาร และความบันเทิง โดยในการจัดลำดับทางนิตยสารสอบถามไปยังผู้คนท้องถิ่นเกี่ยวกับการรับประทานอาหารนอกบ้าน เพื่อจัดอันดับเมืองหลวงแห่งอาหารในปี 2024 นี้
โดยนิตยสารฯ ได้ระบุว่าการรับประทานอาหารเป็นส่วนหนึ่งของการทำความรู้จักแต่ละเมือง ส่วนที่ทำให้อาหารยอดเยี่ยม ไม่ใช่เพียงแค่คำชม และดาวมิชลิน (Michelin Star) แต่คือ ตัวเลือกของอาหาร คุณภาพ ราคา การสำรวจครั้งนี้จึงเป็นการสอบถามไปยังหลายพันคนเพื่อกล่าวถึงการรับประทานอาหารนอกบ้านในบ้านเกิดของตัวเอง ให้คะแนน ด้านคุณภาพ ราคา จากนั้น ทีมบรรณาธิการและนักเขียนทั่วโลกเป็นผู้สรุปผลการสำรวจ
กรุงเทพฯ ได้รับการจัดอับดับให้ครองที่ 6 ของโลก The world’s 20 best cities for food โดยในนิตยสารได้ระบุว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของ Street Food และมีราคาย่อมเยาที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก มีความหลากหลาย ทั้งรับประทานจากจานร้อนริมถนน หรือเสิร์ฟในเรือบริเวณตลาดน้ำ อาหารที่ต้องลองคือ ส้มตำ นอกจากนี้ กรุงเทพฯ มีร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ ถึง 34 แห่ง และมีถึง 8 ร้านได้รับรางวัล Asia’s 50 Best Restaurants 2024 (https://www.timeout.com/bangkok/restaurants/asias-50-best-restaurants)
ในโอกาสนี้ นิตยสารฯ เชิญชวนให้ผู้อ่านเดินทางมารับประทานอาหารที่กรุงเทพฯ ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านอาหารที่ดีที่สุดของโลก ในฐานะหัวใจของอาหาร Street Food ตอนนี้กรุงเทพฯ มีย่านใหม่ บรรทัดทอง แข่งขันกับย่านคลาสสิกที่ถนนเยาวราช รวมทั้งมีร้านอาหาร Fine Dining ซึ่งได้รับรางวัล Michelin stars และ Asia’s 50 Best Restaurants 2024 ข้างต้น
“นายกรัฐมนตรีภูมิใจในศักยภาพ มนต์เสน่ห์ ของกรุงเทพฯ และประเทศไทย นักท่องเที่ยวที่ได้มาสัมผัสวัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ อาหาร ผลไม้ กรุงเทพฯ และประเทศไทยต่างมีความชื่นชม ไทยมีความหลากหลาย ตอบโจทย์กระแสการท่องเที่ยว และความต้องการของนักท่องเที่ยว ซึ่งอีกสิ่งที่น่าภูมิใจคือ ไทยมีศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมระดับโลก โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนให้ปีหน้า 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม ชิม ช้อป ซึ่งนอกจากเชื่อมั่นว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจแล้ว เชื่อว่าจะขยายกิจกรรมออกไปทั้งในเมืองหลัก และเมืองรอง สร้างอาชีพ พัฒนาวิถีชีวิตพี่น้องประชาชน” นายชัย กล่าว