ผัวเมียตีกันทำวุ่น ชาวบ้านเข้าใจผิดคิดว่ารถถูกโจรกรรมทรัพย์
ฉะเชิงเทรา – ผัวเมียระเหี่ยใจ ออกมาโชว์ทะเลาะกันจนถึงยังนอกบ้าน ทำให้ผู้คนต่างพากันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการโจรกรรมประทุษร้ายทำลายทรัพย์ หรือมีการทุบกระจกฉกเอาทรัพย์สินไปจากภายในรถยนต์ สุดท้ายเป็นเพียงแค่เรื่องในครอบครัวที่เริ่มมีการแตกร้าวไม่ลงรอยกันแล้ว แต่ทำเอาเจ้าหน้าที่บ้านเมืองพากันต่างวิ่งวุ่นตรวจสอบเหตุกว่าจะได้ความจริงปรากฏ
วันที่ 29 มิ.ย.63 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุ กรณีมีชาวบ้านแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามาตรวจสอบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าสีน้ำเงินคันหนึ่ง ซึ่งมีร่องรอยของการถูกทุบทำลายที่บริเวณกระจกบานหน้าจนเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ โดยต่างพากันเข้าใจผิด คิดว่าเกิดเหตุมีรถยนต์ถูกคนร้ายทุบทำลายเพื่อโจรกรรมเอาทรัพย์สินจากภายในรถไป
ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าว จอดอยู่ที่บริเวณลานจอดรถของทางร้านค้าสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ที่บริเวณทางสามแยกโรงเรียนเทศบาล 2 ริมถนน 314 (ฉะเชิงเทรา-บางปะกง) เยื้องกันกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ชื่อดัง ภายในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา โดยรอบตัวรถอยู่ในสภาพค่อนข้างใหม่ จอดในลักษณะค่อมอยู่บนช่องจอดของลูกค้าที่แวะเข้ามาซื้อของ และมีเพียงรอยทุบทำลายที่ด้านบนของบานกระจกด้านหน้าฝั่งคนขับเท่านั้น
หลังสอบถามจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ทราบว่า ขณะนี้ทราบถึงสาเหตุของรถยนต์ที่ถูกทุบทำลายตามที่ได้รับแจ้งแล้ว โดยทราบว่า เป็นเพียงเหตุผัวเมียทะเลาะกัน โดยที่ทางฝ่ายภรรยาเป็นผู้ที่ขับรถหนีออกมาจากบ้าน ส่วนฝ่ายสามีได้ติดตามมาทุบกระจกรถ จากนั้นทางฝ่ายสามีได้หลบหนีไปหลังก่อเหตุ ส่วนทางฝ่ายภรรยาได้ทิ้งรถไล่ติดตามไป ไม่ใช่เหตุร้ายที่เกิดขึ้นจากคนร้ายที่พยายามที่จะโจรกรรมรถยนต์ หรือทุบกระจกเพื่อหวังล้วงเข้าไปเอาทรัพย์สินแต่อย่างใด
แต่เมื่อมีคนผ่านมาพบเห็นว่ากระจกรถนั้นถูกทุบทำลาย หรือตัวรถมีร่องรอยของการถูกทุบ จึงต่างพากันโทรศัพท์แจ้งไปยังทางเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ และหลังจากสามารถทำการติดต่อกับทางฝ่ายเจ้าของรถได้แล้ว ได้เร่งรัดให้รีบกลับมาเอารถออกไปจากบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะมีคนมาพบเห็นร่องรอยของตัวรถที่ถูกทุบทำลาย และจะพากันแจ้งเหตุเข้าไปยังทางเจ้าหน้าที่ให้กลับมาตรวจสอบอีก หากปล่อยให้ล่าช้าไปนาน จนมีการเปลี่ยนเวรการปฏิบัติงานของทางเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ทำให้พลเมืองดีล้วนต่างพากันผิดหวังไปตามๆ กัน ที่แจ้งเหตุไปอย่างผิดพลาด จนทำให้ทางฝ่ายของเจ้าหน้าที่ต้องพากันตรวจสอบเหตุวุ่นวาย กับเหตุระหองระแหงที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว แต่กลับกลายทำให้เป็นเรื่องใหญ่ จนทำให้สังคมภายนอกต้องได้มารับรู้กันจนถึงยังภายนอกบ้านดังกล่าว