รีเซต

ลุยหุ้นตัวไหนดี ! ช่วง Window Dressing

ลุยหุ้นตัวไหนดี ! ช่วง Window Dressing
TNN ช่อง16
28 มิถุนายน 2565 ( 16:33 )
348

ในช่วงใกล้สิ้นไตรมาสแบบนี้ นักลงทุนมือใหม่อาจจะได้ยินคำว่า Window Dressing กันบ่อยครั้ง ทั้งจากข่าวคราวในวงการตลาดหุ้น และจากบทวิเคราะห์การลงทุน  ในฐานะปรากฏการณ์ที่จะช่วยผลักดันให้ราคาหุ้นบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะหุ้นที่อยู่ในความนิยมของนักลงทุนสถาบัน ปรับตัวขึ้น เพื่อทำให้ตัวเลขผลตอบแทนในสิ้นงวดบัญชีดูดีขึ้น


ซึ่งการทำ Window Dressing ปกติจะทำก่อนปิดสิ้นงวดแต่ละไตรมาส เดือนมี.ค.มิ.ย. ก.ย. และธ.ค.


ส่วนหุ้นที่ถูกเลือกนั้น 

-  เป็นหุ้นที่ Outperform 

-  หุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น 

-  หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ 

-  หุ้นที่ Current P/E Ratio ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง  

- หุ้นที่นักลงทุนสถาบันถือครองอยู่มากส่วนใหญ่อยู่ SET 50


 สำหรับการเกิด Window Dressing มากน้อยแค่ไหนนั้น กูรูตลาดทุนอย่าง "จารุชาติ บูชาชาติ" นักกลยุทธ์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ความเห็นว่า มาจาก 3 ปัจจัยคือ 1. กองทุนในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิปีนี้ โดย YTDยังขายอยู่ 9.4 หมื่นล้านบาท ต้นทุนเฉลี่ยในการขายอยู่ที่ีระดับ SET50 Index1,010 จุด อิงระดับปัจจุบันที่ 943 จดุ มีส่วนต่างราว 7% ถือเป็นระดับที่ีมีโอกาส ShortCovering ในระยะสั้น 


2. ปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ  ในเชิงของตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างผ่อนคลายเมื่อเทียบกับช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า 3. แรงเก็งกำไรผลประกอบการในกลุ่ม Domestic play โดยเฉพาะกลุ่มบริการที่ีจะเห็นการฟื้น ตัวแบบYoY ชัดเจนตั้งแต่ 2Q65


สำหับหุ้นที่มีโอกาสถูกทำ Window Dressing คือหุ้นใหญ่ที่ Laggardอิงดัชนี SET50 Index ที่ติดลบ -7.2% QTD  ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 7ไตรมาส การทำ Window Dressing รอบนี้ไม่สามารถทำให้ Performance สร้าง

ความประทับใจให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ 


แต่อย่างน้อย เราคาดว่าจะเห็นแรงซื้อคืนในหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวลงแรงเกินไป และมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี เพื่อให้การแสดง Performance ไม่ต่างจากค่าเฉลี่ยของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ โดยถ้าอิงเกณฑ์ 1.ห้นุ Market Cap. ใหญ่เกิน 9 หมื่นล้านบาท 2. ราคาหุ้น ปรับตัวลงมากกว่า SET50Index 


3. แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี 4. Valuation ไม่แพงและเน้นที่  Domestic play เป็นหลักหุ้นที่เราคาดว่าจะถูกทำ Window Dressing รอบนี้คือ  ADVANC (FV@B252) , CPALL(FV@B73) , KBANK(FV@B180) , EA(FV@B115) , SCGP(FV@B69) , CRC(FV@B40) , OSP(FV@B39) 


 

 แม้หุ้นบางตัวในตลาดหลักทรัพย์อาจปรับตัวสูงขึ้นจากการทำWindow Dressing เพราะมีปริมาณซื้อจากนักลงทุนสถาบันเข้ามามาก โดยเฉพาะหุ้นที่ Outperform มีแนวโน้มราคาหรือผลประกอบการที่ดีอยู่แล้ว  แต่สิ่งที่นักลงทุนรายย่อยที่

ควรเพิ่มความระมัดระวังราคาหุ้นจะสูงกว่าปกติหากเข้าเก็งกำไรระยะสั้นอาจเจ็บตัวได้แต่ในทางตรงกันข้าม ก็เป็นจังหวะขายทำกำไร...


ที่มา    set, จารุชาติ บูชาชาติ 

ภาพประกอบ  พิกซาเบย์


ข่าวที่เกี่ยวข้อง