รีเซต

ศบค.เผยอนามัยโลกเร่งหาเหตุ "เด็กยุโรปตาย" จากภาวะภูมิต้านทาน/อักเสบ คาดโยง "โควิด-19"

ศบค.เผยอนามัยโลกเร่งหาเหตุ "เด็กยุโรปตาย" จากภาวะภูมิต้านทาน/อักเสบ คาดโยง "โควิด-19"
มติชน
17 พฤษภาคม 2563 ( 12:42 )
229
ศบค.เผยอนามัยโลกเร่งหาเหตุ "เด็กยุโรปตาย" จากภาวะภูมิต้านทาน/อักเสบ คาดโยง "โควิด-19"
ศบค.เผยอนามัยโลกเร่งหาเหตุ “เด็กยุโรปตาย” จากภาวะภูมิต้านทาน/อักเสบ คาดโยง “โควิด-19”

โควิด-19 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) เปิดเผยระหว่างแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า สถานการณ์ทั่วโลก 211 ประเทศ ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 70 และพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อทั่วโลกสะสมรวม 4,720,196 ราย อาการหนัก 44,827 ราย รักษาหายแล้ว 1,811,080 ราย เสียชีวิต 313,220 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ประเทศที่พบผู้ป่วยสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อสูงที่สุดจำนวน 1,507,773 ราย เสียชีวิต 90,113 ราย 2.สเปน 276,505 ราย เสียชีวิต 27,563 ราย 3.รัสเซีย 272,043 ราย เสียชีวิต 2,537 ราย 4.สหราชอาณาจักร 240,161 ราย เสียชีวิต 34,466 ราย 5.บราซิล 233,511 ราย เสียชีวิต 15,662 ราย 6.อิตาลี 224,760 ราย เสียชีวิต 31,763 ราย 7.ฝรั่งเศส 179,365 ราย เสียชีวิต 27,625 ราย 8.เยอรมนี 176,247 ราย เสียชีวิต 8,027 ราย 9.ตุรกี 148,067 ราย เสียชีวิต 4,096 รายและ 10.อิหร่าน 118,392 ราย เสียชีวิต 6,937 ราย

“สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่อยู่ที่ 91,840 ราย ซึ่งเป็นจำนวนเกือบ 1 แสนราย และผู้รักษาหายเพิ่มขึ้นใน 1 วันจำนวน 53,635 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 4,575 ราย ประเทศสหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับ 1 ที่มีผู้ป่วยสะสมสูงสุด โดยประเทศบราซิลและประเทศอิตาลีสลับตำแหน่งกันจากเมื่อวานนี้” โฆษก ศบค.กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ในกลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชีย จำนวน 10 ประเทศ เรียงลำดับตามจำนวนยอดผู้ป่วยสะสม ได้แก่ 1.ประเทศอินเดีย ผู้ป่วยสะสม 90,648 ราย เสียชีวิต 2,871 ราย 2.สาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้ป่วยสะสม 82,947 ราย เสียชีวิต 4,633 ราย 3.ประเทศปากีสถาน ผู้ป่วยสะสม 38,799 ราย เสียชีวิต 834 ราย 4.ประเทศสิงคโปร์ ผู้ป่วยสะสม 27,356 ราย เสียชีวิต 22 ราย 5.ประเทศบังกลาเทศ ผู้ป่วยสะสม 20,995 ราย เสียชีวิต 314 ราย 6.ประเทศอินโดนิเซีย ผู้ป่วยสะสม 17,025 ราย เสียชีวิต 1,089 ราย 7.ประเทศญี่ปุ่น ผู้ป่วยสะสม 16,237 ราย เสียชีวิต 725 ราย 8.ประเทศฟิลิปปินส์ ผู้ป่วยสะสม 12,305 ราย เสียชีวิต 817 ราย 9.ประเทศเกาหลีใต้ ผู้ป่วยสะสม 11,050 ราย เสียชีวิต 262 ราย และ 10.ประเทศมาเลเซีย ผู้ป่วยสะสม 6,872 ราย เสียชีวิต 113 ราย

“ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ คือ จำนวนเด็กป่วยด้วยอาการผิดปกติเกี่ยวกับภูมิต้านทานที่มีความเชื่อมโยงกับโรคโควิด-19 ในเด็กในยุโรปและสหรัฐเพิ่มขึ้น โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ยุโรปและสหรัฐมีจำนวนด็กที่มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับภูมิต้านทานซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีรายงานเด็กอย่างน้อย 5 คน เสียชีวิตจากอาการดังกล่าว ซึ่ง 3 คน อยู่ในนครนิวยอร์ก ของสหรัฐ ฝรั่งเศส และอังกฤษ ประเทศละ 1 คน ส่วนอีกอย่างน้อย 2 คนก็เสียชีวิตด้วยอาการคล้ายกัน ขณะที่องค์การอนามัยโลก กล่าววานนี้ว่า กำลังศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างโรคโควิด-19 กับโรคที่ทำให้เกิดอาการอักเสบในอวัยวะต่างๆ ซึ่งทำให้เด็กๆ ในยุโรปและสหรัฐเจ็บป่วยและเสียชีวิตเมื่อเร็วๆ นี้” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกชี้อาการอักเสบหนักในเด็กอาจเกี่ยวพันกับโรคโควิด-19 โดยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ได้เปิดเผยว่า กลุ่มอาการอักเสบของอวัยวะหลายระบบ (multisystem inflammatory syndrome) ในเด็กนั้น อาจเกี่ยวพันกับโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า รายงานจากยุโรปและอเมริกาเหนือตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ระบุถึงกรณีที่เด็กจำนวนหนึ่งต้องเข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป้วยหนัก (ICU) ด้วยกลุ่มอาการข้างต้น ซึ่งมีลักษณะบางอย่างคล้ายกับโรคคาวาซากิ (Kawasaki) และอาการท็อกชิกช็อก (TSS)

“โรคนี้เป็นโรคใหม่เพิ่งเกิดมา เข้าเดือนที่ 5 เราต้องมาเรียนรู้กัน เดิมบอกว่า โรคนี้รักเด็ก ไม่ปล่อยให้เด็กป่วยเท่าไรนัก แต่รายงานพบว่ามีป่วยในเด็กและอาการหนักด้วย ถึงแม้จะจำนวนน้อยแต่อาการหนักถึงเสียชีวิต ต้องรีบเข้าไปศึกษาวิจัยกัน ดังนั้น ไม่แปลกที่เราเอากลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ 2 กลุ่มนี้มาเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เราต้องเรียนรู้จากข่าวต่างประเทศ เพื่อปกป้องคนที่เรารักใน 2 กลุ่มวัยนี้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง