ศึกษาชี้ 'อัตราฆ่าตัวตาย' ในกลุ่มวัยรุ่นสหรัฐฯ พุ่งสูงต่อเนื่อง
ลอสแอนเจลิส, 27 เม.ย. (ซินหัว) -- ผลการศึกษาฉบับใหม่ของคณะนักวิจัยจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์ชมิดท์แห่งมหาวิทยาลัยฟลอริดา แอตแลนติก ระบุว่าสื่อสังคมออนไลน์ ความเครียดในโรงเรียน และอาวุธปืน กระตุ้นอัตราการฆ่าตัวตายในกลุ่มวัยรุ่นสหรัฐฯ ให้เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องการศึกษาฉบับดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อสำรวจแนวโน้มอัตราการฆ่าตัวตายในวัยรุ่นสหรัฐฯ ช่วงอายุ 13-14 ปี ตั้งแต่ปี 1999-2018 และสำรวจการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้ตามเพศ เชื้อชาติ ระดับการขยายตัวของความเป็นเมือง และภูมิภาคสำมะโนประชากรผลลัพธ์จากการศึกษาเผยว่า อัตราการฆ่าตัวตายในเด็กอายุ 13-14 ปี เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าตั้งแต่ปี 2008-2018 สืบเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสื่อสังคมออนไลน์ แม้ว่าอัตราการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในกลุ่มอายุนี้จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปี 1999-2007เมื่อวันพุธ (26 เม.ย.) มหาวิทยาลัยฯ ระบุว่าแนวโน้มดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกันในพื้นที่เมืองและชนบท ทว่าพบได้บ่อยในเด็กผู้ชายที่อาศัยในพื้นที่ชนบท ซึ่งมีอาวุธปืนแพร่หลายมากกว่าการศึกษาที่เผยแพร่ออนไลน์ในวารสารรายงานประจำปีด้านกุมารเวชศาสตร์และสุขภาพเด็ก ชี้ว่าการฆ่าตัวตายได้กลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรอันดับที่สองในกลุ่มอายุ 10-24 ปี และเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นในวัยรุ่นอายุ 13-14 ปี