ฝรั่งเศสทำสถิติใหม่! ติดโควิดวันเดียวเกือบ 1.7 หมื่นคน

วันนี้( 4 ต.ค.63) สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ในยุโรปยังเลวร้าย โดยในฝรั่งเศส รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีกเกือบ 17,000 รายในวันเสาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าวันก่อนประมาณ 5,000 ราย ทำสถิติใหม่ของผู้ติดเชื้อรายวัน โดยจำนวนผู้ติดเชื้อ เพิ่มขึ้น 16,972 ราย มากกว่าสถิติเดิมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 16,096 ราย รวมตัวเลขสะสมทั่วประเทศ เป็น 660,625 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 49 ราย เป็น 32,198 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยรายใหม่ถูกส่งเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 4,087 ราย ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ซึ่งรวมทั้ง 849 รายในห้องไอซียู แต่ตัวเลขยังนิ่งอยู่เมื่อเทียบกับรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยอัตราการตรวจหาเชื้อโควิดในฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นเป็น 7.9 เปอร์เซ็นต์ จาก 7.7 เปอร์เซ็นต์ ในวันศุกร์ 

ส่วนอังกฤษ สถานการณ์เลวร้ายไม่ต่างกันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12,872 รายเมื่อวันเสาร์ ทำสถิติผู้ติดเชื้อรายวันครั้งใหม่ ซึ่งรัฐบาลอังกฤษตำหนิว่า การเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการเลื่อนการรายงานสถานการณ์โควิดรายวันออกไป และบอกว่าจำนวนนี้รวมกันในช่วงหลายวันที่ผ่านมาด้วย โดยเว็บไซต์ของรัฐบาลอังกฤษระบุว่า ปัญหาทางเทคนิค ทำให้ต้องเลื่อนการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวัน และกลับมารายงานอีกครั้งจึงรวมเอาตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ระหว่างวันที่ 24 กันยายน และ 1 ตุลาคมเข้าด้วย

ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันรายใหม่ 12,872 ราย เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากเมื่อวันศุกร์ ซึ่งอยู่ที่ 6,968 ราย ทุบสถิติเดิมมากที่สุดรายวันเมื่อวันอังคาร ซึ่งอยู่ที่ 7,143 ราย

สำหรับอังกฤษ ขณะนี้มีการตรวจหาเชื้อโควิดมากกว่า 200,000 ครั้งต่อวัน เมื่อเทียบกับไม่ถึง 100,000 ครั้งในช่วงการเริ่มต้นระบาดของไวรัส ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตภายใน 28 ชั่วโมง ลดลงมาเหลืออยู่ที่ 49 รายในวันเสาร์ จาก 66 รายเมื่อวันก่อน

ด้านสเปน รัฐบาลประกาศใช้มาตรการคุมเข้มครั้งใหม่ในกรุงมาดริด เมืองหลวง ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากกว่า 3 ล้านคน ขณะที่สเปนพยายามที่จะควบคุมการระบาดของไวรัสโควิดระลอก 2 ที่มีแนวโน้มกลับมารุนแรงอีกครั้งในยุโรป โดยนับจากสุดสัปดาห์นี้ประชาชนสามารถเดินทางออกจากพื้นที่ของตัวเองเพื่อไปธุระที่สำคัญๆเท่านั้น สำหรับบาร์และร้านอาหาร ก็ไม่สามารถเปิดให้บริการได้หลังเวลา 22.00 น. ขณะที่ประชาชนจะพบปะสังสรรค์กันได้สูงสุดแค่ 6 คนเท่านั้น มาตรการนี้มีผลบังคับใช้ใน 9 เมืองรอบกรุงมาดริด เป็นไปตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลกลาง ซึ่งก็ถูกเจ้าหน้าที่รัฐบาลกรุงมาดริดคัดค้านด้วย และเจ้าหน้าที่พยายามที่จะขอพึ่งอำนาจศาลเพื่อยับยั้งมาตรการดังกล่าว 

รัฐมนตรียุติธรรมกรุงมาดริด กล่าวว่า มาตรการที่รัฐบาลออกมาบังคับใช้นี้ จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจในเมืองหลวง คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 8,000 ล้านยูโร หรือเกือบ 296,000 ล้านบาทและนายอิซาเบล ดีแอซ อายูโซ ประธานาธิบดีของภูมิภาคมาดริด ทวีตข้อความเป็นเชิงเสียดสีว่า ขอบคุณสำหรับความปั่นป่วนท่านนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซของสเปน

เกาะติดข่าวที่นี่