Facebook พัฒนาแว่นตาอัจฉริยะ "เทเลพอร์ต" ร่างของคุณไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ !!
มาร์ค ซักเกอเบิร์ก CEO ของ Facebook เผยว่ามลพิษจากยานพาหนะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เขาจึงเสนอแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้คนสามารถ "เทเลพอร์ต" หากันได้ในพริบตาภายในปี 2030 !!
จากการให้สัมภาษณ์กับทาง The Information มาร์คกล่าวว่า "แทนที่คุณจะโทรหาหรือวิดีโอคอลล์กับใครสักคน คุณก็แค่กดปุ่มบนอุปกรณ์ตัวนั้นแล้วก็เทเลพอร์ตไปหาเขาเลย" แม้ฟังดูแล้วจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่เขาได้วางแผนพัฒนาอุปกรณ์ Augmented reality (AR) ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลทำได้ง่ายและสะดวกสบายราวกับพูดคุยอยู่ตรงหน้ากันเอง
การเทเลพอร์ตในแนวคิดของมาร์ค ไม่ใช่การย้ายโมเลกุลร่างกายไปยังอีกที่หนึ่งแบบที่คุณเคยเห็นในภาพยนตร์อวกาศ แต่เป็นการจำลองตัวบุคคลไปยังสถานที่หนึ่ง เพื่อให้เกิดการติดต่อสื่อสารเหมือนกับตัวของคุณเดินทางไปยังสถานที่แห่งนั้นด้วย
ลองนึกภาพตามว่าคุณต้องเดินทางไปร่วมงานประชุมต่างจังหวัด หากคุณมีอุปกรณ์ AR ของ Facebook เพียงกดปุ่มคุณก็สามารถจำลองสถานที่ประชุมพร้อมภาพสมาชิกคนอื่นอยู่ตรงหน้าของคุณได้ โดยที่คุณไม่ต้องเดินทางไปในสถานที่แห่งนั้น
ในขณะเดียวกัน ณ ที่ประชุมแห่งนั้น สมาชิกคนอื่น ๆ จะมองเห็นร่างจำลองของคุณอยู่ในที่ประชุม ซึ่งสามารถพูดคุยและโต้ตอบได้เหมือนพูดคุยกันตรงหน้า (พูดง่าย ๆ เหมือนมีภาพโฮโลแกรมจำลองร่าง 3D ของคุณเกิดขึ้นในที่ประชุม แต่แน่นอนว่าสมาชิกในที่ประชุมก็ต้องสวมใส่อุปกรณ์เดียวกับที่คุณใช้อยู่ด้วย)
จะเห็นได้ว่าเท่านี้เราทุกคนสามารถปรากฏอยู่ในสถานที่ใดก็ได้ โดยที่กายหยาบไม่ได้เดินออกมาจากบ้านของตนเองเสียด้วยซ้ำ แถมฟีลลิ่งที่ได้รับยังดีกว่าการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลล์ ซึ่งมาร์ค ซักเกอร์เบิร์กกล่าวว่าวิธีนี้จะช่วยลดปริมาณการเดินทางของผู้คนทั่วโลก ผลพลอยได้ที่ตามมานอกจากความสะดวกสบาย คือการช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและส่งผลดีต่อโลกในระยะยาว
หลังจากที่ Facebook ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท Oculus ผู้ผลิตอุปกรณ์ Virtual reality (VR) จึงมีโครงการการพัฒนาอุปกรณ์ VR และ AR ออกมามากมาย เช่น Gaming VR headset สำหรับเล่นเกม หรือ Smart glasses แว่นตาอัจฉริยะที่ร่วมมือกับ Ray-Ban บริษัทผลิตแว่นตาชื่อดัง โดยเน้นฟีเจอร์ด้านโซเชียลมีเดียเป็นหลัก
ล่าสุดกับ Project Aria ซึ่งเป็นโครงการพัฒนา Smart glasses ที่ใช้เทคโนโลยี AR เป็นตัวขับเคลื่อน และนี่น่าเป็นอุปกรณ์ที่มาร์ค ซักเกอร์เบิร์กกำลังพูดถึงอยู่ แต่ยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกสักพัก เพราะต้องออกแบบให้ Smart glasses นี้มีน้ำหนักเบา (น้อยกว่า 70 กรัม) รวมถึงมีระบบเสียงและหน้าจอแสดงผล ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับนักออกแบบเป็นอย่างมาก
อนึ่ง เทคโนโลยี Augmented reality คือเทคโนโลยีที่จำลองวัตถุ 3D ให้มาแสดงผลในสิ่งแวดล้อมจริง โดยอาศัยเซนเซอร์ในการตรวจจับภาพ, เสียง, การสัมผัส แม้กระทั่งการรับกลิ่น ซึ่งผู้ใช้จะต้องมองภาพจำลองเหล่านี้ผ่านอุปกรณ์พิเศษ เช่น Smart glasses หรือแว่นตาอัจฉริยะ เป็นต้น
เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่าในอนาคตเทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตของเรามากขึ้น ซึ่งแนวคิด Smart glasses ของ Facebook นับเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ช่วยให้ชีวิตของเรามีความสะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการทำลายสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน ที่สำคัญคือยังมีผู้ผลิตอีกหลาย ๆ แบรนด์ อย่าง Google หรือ Apple ที่มีแผนจะสร้าง AR smart glasses ของตนเองขึ้นมาด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail, The Verge