ผบช.ภ.8 แถลงข่าว เด็ก 3 ขวบเสียชีวิตผิดธรรมชาติ พบร่องรอยฟกช้ำ แผล 23 แห่งทั่วร่างกาย

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 8 มิถุนายน 2565 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 , พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมชุดสืบสวนภาค 8 ชุดจับกุม ภ.จว.ภูเก็ตและสภ.ฉลอง แถลงข่าว กรณี ด.ญ.บี(นามสมมติ) อายุ 3 ปี เสียชีวิตผิดธรรมชาติ คดีอาญาเลขที่ 608/2565 สภ.ฉลอง ณ ห้องประชุม ชั้น 3 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
ทราบเหตุเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 17.50 น. ร.ต.อ.สมเกียรติ สารสิทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลฉลอง ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ตจึงเดินทางตรวจสอบพบ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 3 ปี นอนเสียชีวิตภายในห้องฉุกเฉิน ตรวจสอบบริเวณ
ร่างกายพบมีรอยฟกช้ำบริเวณแก้มด้านซ้าย และบริเวณหน้าผาก
สอบถามนายวัณวิชัยต์ เนียมหอม บิดา ผู้เสียชีวิต แจ้งว่าก่อนที่จะเสียชีวิตเด็กได้อาเจียน ตัวเกร็ง จากนั้นได้นำส่งโรงพยาบาลฉลอง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงได้นำศพส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ต่อมาได้รับผลตรวจพิสูจน์จากแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตพบว่า สภาพศพภายนอกของ ด.ญ.บี (นามสมมติ) มี รอยฟกช้ำ และแผลถลอก บริเวณศีรษะ และลำตัว ทั่วร่างกายผู้ตายทั้งหมด 23 แห่ง ซึ่งเกิดจากถูกกระทำโดยของแข็งไม่มีคม คาดว่าเกิดขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ก่อนผู้ตายเสียชีวิต โดยสาเหตุของการเสียชีวิตเกิดจากเลือดออกในช่องท้องจากลำไส้ฟกช้ำหลายตำแหน่ง
จากการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานทางคดีมีประจักษ์พยานยืนยันว่า ผู้ที่ทำร้ายร่างงกายด.ญ.บี(นามสมมติ) อายุ 3 ปี คือ นางสาววรรณวิลัย สำเนียง (แม่เลี้ยง) อายุ 28 ปี และ นายวัณวิชัยต์
เทียนหอม (พ่อ) อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งสอดคล้องกับผลตรวจชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต พนักงานสอบสวนจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดภูเก็ต
ศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานแล้วออกหมายจับ นางสาววรรณวิลัย สำเนียง (แม่เลี้ยง) อายุ 28 ปีผู้ต้องหาที่ 1 และนายวัณวิชัยต์ เทียนหอม (พ่อ) อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ตามหมายจับของศาลจังหวัด
ภูเก็ตที่ 221/2565 และ222/2565 ตามลำดับ ในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และเฉพาะนางสาวรรณวิลัย สำเนียง ผู้ต้องหาที่ 1 ผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหรือจิตใจ”
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 กล่าวว่า คดีทำร้ายร่างกายเด็ก เป็นอุทาหรณ์ขอเตือนพี่น้องประชาชนว่าความรุนแรงในครอบครัวมีผลความสูญเสีย และความเสียใจ จะมีหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พ.ม.) ประสานการเยียวยาดูแล
“ในเรื่องการทำร้ายเด็กเป็นห่วงความไม่พร้อมของครอบครัว พอเกิดความแตกแยกและมีบุตรด้วยไม่ดูแลเอาใจใส่ ซึ่ง พ่อ เด็ก ทำงานรับจ้างอยู่บนเกาะ เช้าตี5ออกเย็นกลับ ส่วนแม่เลี้ยงไม่ได้ทำอะไร และมีลูกติดมา 2 คนอีกรวมเป็น 4 คน มีอารมณ์หงุดหงิดและเด็กคนนี้ไม่ค่อยพูดเกิดปัญหาการตีเด็กไม่ใช่วิธีการที่ดี ไม่อยากให้เกิดเป็นแบบนี้อีก
ผู้ต้องหา ทั้งสองคนนั่งคอตก ร้องไห้รับสารภาพทั้งน้ำตา ว่าในวันเกิดเหตุเป็นที่หงุดหงิดและเด็กดื้อ ซึ่ง เด็ก 3 ขวบเขาไม่รู้เรื่อง แล้วมานั่งร้องไห้เสียใจทีหลัง ซึ่งพ่อนั่งคอตกไม่พูดอะไร เป็นความรุนแรงในครอบครัว
เราก็เสียใจกับครอบครัว คุณแม่เขาก็เสียใจที่เลิกกันแล้วลูกเขาต้องมาตายอีก ถ้าไม่พรัอมจริงๆมาปรึกษาหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อย่าให้รุนแรงขนาดชีวิตแบบนี้ และจากหมอชันสูตรพลิกศพซี่โครงหัก3ซี่ แผล 23 แผล คงทรมานน่าดู เลือดตกใน จึงขอฝากประชาชนช่วยกันดูแลครอบครัวให้ดี ” พล.ต.ท.อำพล กล่าว ที่สุด