เปิดภาพความเสียหายใน "ตองกา" หลังภูเขาไฟระเบิด-สึนามิถล่ม

วันนี้( 20 ม.ค.65) สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพความเสียหายในวงกว้างในกรุงนูกูอาโลฟา เมืองหลวงของตองกา หลังภูเขาไฟใต้ทะเล “ฮังกา ตองกา ฮังกา ฮาปาย” นอกชายฝั่งตองการะเบิดรุนแรง โดยภาพแสดงให้เห็นต้นปาล์มหักโค่นถอนรากถอนโคน, ประชาชนกำลังช่วยกันเก็บเศษซากต่าง ๆ จากสนามหญ้า และเถ้าถ่านที่ปกคลุมในพื้นที่ต่าง ๆ

ส่วนดิจิเซล (Digicel) บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ระบุว่า สามารถกู้ระบบเครือข่ายโทรศัพท์ระหว่างประเทศของตองกาได้บางส่วนแล้ว แต่บริษัทที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตระบุว่า อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนถึงจะสามารถกู้ระบบอินเตอร์เน็ตกลับมาได้เต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ ระบบสื่อสารของตองกาถูกตัดขาดไปเมื่อวันเสาร์หลังเกิดเหตุภูเขาไฟใต้น้ำระเบิด สถาบันวิจัยด้านสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของนิวซีแลนด์ระบุว่า การระเบิดครั้งนี้ทำให้เกิดคลื่นความดันเร็วเหนือเสียง ทำลายสายเคเบิลใต้ทะเลที่เชื่อมต่อการสื่อสารจากตองกาไปยังประเทศอื่นๆ

ซามิวเอลา โฟนัว ประธานของบริษัทตองกา เคเบิล ระบุว่า ยังไม่สามารถกู้คืนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้เต็มรูปแบบจนกว่าจะมีการซ่อมแซมสายเคเบิลใต้ทะเล โดยเรือซ่อมสายเคเบิลจะออกจากกรุงพอร์ตมอร์สบีของปาปัวนิวกินีในช่วงสุดสัปดาห์นี้ อาจใช้เวลาเก้าวันเพื่อเดินเรือไปรับอุปกรณ์จากซามัว ก่อนเดินเรือไปยังพื้นที่ภูเขาไฟระเบิดเพื่อซ่อมสายเคเบิล และยังไม่สามารถบอกได้ว่าเรือจะเข้าถึงบริเวณดังกล่าวได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

รัฐบาลตองกาและบริษัทตองกา คอมมิวนิเคชันส์ ยังไม่มีความเห็นต่อประเด็นระบบสื่อสารในประเทศโดยทันที

ทางการตองการะบุว่า เหตุภูเขาไฟระเบิดครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อยสามคน และทำให้แหล่งน้ำดื่มส่วนใหญ่ของประเทศปนเปื้อนเถ้าถ่านภูเขาไฟ

ขณะที่ทางการนิวซีแลนด์ระบุว่า จะส่งน้ำและปัจจัยจำเป็นให้ตองกาทางเครื่องบิน แต่ลานวิ่งในสนามบินของตองกาที่ปกคลุมด้วยเถ้าถ่านอาจทำให้การขนส่งล่าช้าไปอย่างน้อยหนึ่งวัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ตองกาเริ่มเคลียร์เถ้าถ่านและทำความสะอาดรันเวย์สนามบินแล้ว หลังใช้ความพยายามอย่างยากลำบากอยู่หลายวัน เพื่อเคลียร์พื้นที่รอรับความช่วยเหลือฉุกเฉินจากนานาชาติที่จะเดินทางมาถึง 

สถาบันวิจัยด้านสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของนิวซีแลนด์ ระบุว่า การระเบิดของภูเขาไฟฮังกา ตองกา ฮังกา ฮาปาย ทำให้เกิดคลื่นความดันเร็วเหนือเสียงที่ 1,230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงระเบิดของภูเขาไฟสามารถได้ยินจากรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ และทำให้เกิดคลื่นสึนามิทั่วมหาสมุทรแปซิฟิก