จับขนยาบ้าล็อตใหญ่! 8 แสนเม็ด อ้างหาเงินคลอดลูก
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 26 มิถุนายน 2564 ที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร พ.ต.ต.อัศวิน พันธุ์วงษ์ สว.ส.ทล.ชุมพร แถลงจับกุมตัว หญิง อายุ 21 ปี ชาว อ.พานทอง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน ( ยาบ้า ) จำนวน 800,000 เม็ด ที่ซุกมากับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส
พ.ต.ต.อัศวิน พันธุ์วงษ์ สว.ส.ทล.ชุมพร เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อเวลา 11.00 น.ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำรถตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ตามนโยนายของผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปราม โดยเฉพาะยาเสพติดให้โทษ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง ขณะตรวจมาถึงบริเวณ กม 82-83 ขาล่องล่องใต้ ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร ได้พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีตำ หมายเลขทะเบียน ชฬ 3546 กรุงเทพมหานคร ได้ขับมาในช่องทางด้านขวา และสังเกตเห็นว่าแผ่นป้ายทะเบียนด้านท้าย น่าจะไม่ใช่แผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการออกให้ จึงได้ส่งสัญญาณให้จอด
พบว่ารถคันดังกล่าว มีผู้หญิง เป็นคนขับ จึงขอตรวจสอบใบขับขี่ ปรากฏว่าไม่มีใบขับขี่แต่อย่างใด จึงขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน โดยระหว่างตรวจสอบผู้ขับ มีท่าทางพิรุธ ออกอาการจนเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นบริเวณกระโปรงท้ายรถ ปรากฏว่า พบกระสอบสีขาวคาดฟ้า จำนวน 1 กระสอบ และกระสอบพลาสติกสีดำ จำนวน 2 กระสอบ เจ้าหน้าที่จึงขอทำการตรวจค้นพบ ห่อกระดาษไขสีเหลืองขุ่น ภายในบรรจุยาบ้า รวมทั้งสิ้น 800,000 เม็ด จึงได้ควบคุมตัวพร้อมยาบ้าของกลางมาสอบสวนที่ สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร
จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การโดยอ้างว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์โควิด19ระบาดอยู่ในขณะนี้ ทำให้ตนเองต้องตกงาน ประกอบตอนนี้ตนเองตั้งท้องอยู่ 7 เดือนใกล้คลอดแล้ว แต่ยังไม่มีเงินเก็บไว้ใช้ตอนคลอด บังเอิญได้รู้จักกับชาย อายุ 26 ปี ซึ่งมีอาชีพค้ายาเสพติดและได้แนะนำให้ตนมาลองทำดูเพื่อจะได้มีเงินใช้ ตนจึงตอบรับ จึงให้งานเที่ยวแรก โดยให้ขับรถยนต์คันที่ถูกจับกุม ซึ่งเตรียมไว้ ให้ขับไปรับยาบ้า ที่ข้างปั๊ม ปตท. แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา แล้วนำไปส่งให้ลูกค้า ที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยลูกค้าจะรอรับอยู่ใน รพ.สุราษฎร์ธานี โดยเที่ยวแรก จะได้เงินค่าจ้าง 50,000 บาท แต่ยังไปไม่ถึง ก็มาถูกจับเสียก่อน
เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกจับกุมพร้อมแจ้งขอกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครอง ก่อนนำตัวพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ละแม จ.ชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป