รีเซต

วันรู้รักสามัคคี : 4 ธ.ค.เป็นวันสิ่งแวดล้อมไทยเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือเป็นวันรู้รักสามัคคี

วันรู้รักสามัคคี : 4 ธ.ค.เป็นวันสิ่งแวดล้อมไทยเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือเป็นวันรู้รักสามัคคี
บีบีซี ไทย
14 พฤษภาคม 2563 ( 16:59 )
94

Getty Images

เกือบ 30 ปีหลังจากที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีกระแสพระราชดำรัสถึงความสำคัญของความสามัคคีและการมี "วันรู้รักสามัคคี" ปีนี้จะเป็นปีแรกที่คนไทยจะได้ร่วมฉลองวันแห่งความสามัคคีหลังจากที่คณะรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมติให้วันที่ 4 ธ.ค.ของทุกปีเป็น "วันรู้รักสามัคคี"

 

หลังจาก ครม.มีมติวันที่ 12 พ.ค. กำหนดให้วันรู้รักสามัคคีเป็นวันสำคัญของชาติ โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ เฟซบุ๊กเพจ "ไทยคู่ฟ้า" ก็ได้อัญเชิญพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2534 ซึ่งเป็นที่มาของวันรู้รักสามัคคีมาเผยแพร่ไว้ ความตอนหนึ่งว่า "อีก 2 ปี ข้างหน้าอาจจะมีวันของ 'วันสามัคคี' หรือ 'รู้รักสามัคคี' อีก 2 ปี ก็ไม่สายเกินไป ให้เป็นวัน 'รู้รักสามัคคี' แต่ระหว่างนี้ก็ต้องสามัคคีต่อไป เพื่อให้มีวันนั้นขึ้นได้ คือถ้าไม่ปฏิบัติตั้งแต่วันนี้ ก็ไม่มีวันข้างหน้า"

 

หมูป่าอะคาเดมีกับวันรู้รักสามัคคี

มติ ครม.วันที่ 12 พ.ค. เล่าถึงความเป็นมาของการกำหนดวันรู้รักสามัคคีไว้ว่า เมื่อปี 2562 มูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติได้เสนอ ครม.พิจารณากำหนดให้วันที่ 2 ก.ค.ของทุกปีเป็นวันรู้รักสามัคคี เนื่องจากเป็นวันที่ทีมกู้ภัยพบนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมีอยู่ในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย หลังจากทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกันค้นหาอยู่นานนับสิบวัน

 

ในครั้งนั้น คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ (กอช.) เห็นชอบในหลักการที่จะกำหนดให้มีวันสำคัญของชาติ คือ "วันรู้รักสามัคคี" แต่ยังไม่มีข้อยุติว่าจะเป็นวันใด เพียงแต่ให้ความเห็นว่า "ควรจะต้องเป็นวันที่มีศูนย์รวมจิตใจของประชาชน และสอดคล้องกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม"

 

พล.อ.ประยุทธ์จึงได้มอบหมายให้ กอช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงวัฒนธรรม ไปร่วมกันกำหนดวันรู้รักสามัคคีให้เหมาะสมและได้ข้อยุติก่อนนำเสนอ ครม. พิจารณาต่อไป

 

เดือน ก.พ.ที่ผ่านมาที่ประชุม กอช. ได้หารือกันถึงเรื่องนี้ โดยมีการเสนอ "ตัวเลือก" ได้แก่ วันที่ 2, 4 และ 10 ก.ค. ซึ่งล้วนเป็นวันที่เกี่ยวข้องกับการช่วยชีวิตนักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี โดยวันที่ 10 ก.ค. เป็นวันที่ช่วยทั้ง 13 ชีวิตออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ที่ประชุม กอช.เห็นว่าแม้เหตุการณ์นี้จะแสดงให้เห็นถึงความรู้รักสามัคคี แต่ที่ผ่านมายังมีหลายเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความรู้รักสามัคคี และในภายหน้าก็ย่อมจะมีเหตุการณ์อื่นที่แสดงให้เห็นถึงความรู้รักสามัคคีเกิดขึ้นได้อีก ดังนั้น การอ้างอิงเหตุการณ์ดังกล่าวจึงมีความหลากหลาย

 

อีกตัวเลือกหนึ่งคือวันที่ 4 ธ.ค. ซึ่งตรงกับวันที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำรัสเมื่อปี 2534 ถึงการให้มีวันของความสามัคคี เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของความสามัคคี

 

นอกจากนี้ กอช. ยังเห็นว่าวันที่ 5 ธ.ค.ของทุกปีเป็นวันชาติ การกำหนดให้วันที่ 4 ธ.ค. เป็นวันรู้รักสามัคคี ก็จะสามารถ "ลำดับและดำเนินกิจกรรมได้สอดคล้องให้ตระหนักถึงความสามัคคีนำไปสู่ความเป็นชาติ" จึงเห็นสมควรให้กำหนดวันที่ 4 ธ.ค.ของทุกปีเป็นวันรู้รักสามัคคี เป็นวันสำคัญของชาติ

 

เมื่อสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ซึ่งดูแล กอช. นำเรื่องนี้เสนอต่อ ครม.เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ครม.จึงอนุมัติตามที่เสนอ

 

4 ธ.ค.วันสิ่งแวดล้อมไทย

บางคนเกิดข้อสงสัยว่าแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับวันสิ่งแวดล้อมไทย ซึ่งตรงกับวันที่ 4 ธ.ค.เหมือนกัน

"ไม่เป็นไรครับ วันหนึ่งมันมีได้หลายมิติ ไม่ได้ยกเลิก ในส่วนของวันสิ่งแวดล้อมก็ทำไป วันรู้รักสามัคคีก็ทำกันไปเพราะว่าปีหนึ่งมันมีแค่ 365 วัน ยังไงมันก็คงต้องซ้ำกันสักวันแหละฮะ" นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ตอบคำถามบีบีซีไทย

 

"อย่างเช่นวันวิสาขบูชาก็ยังเป็นวันปลูกต้นไม้ของชาติประจำปีด้วย วันวิสาขบูชากระทรวงวัฒนธรรมก็มีภารกิจไป ทส.ก็ปลูกต้นไม้ของเราไป" รมว.ทส.กล่าวเพิ่มเติม การกำหนดให้วันที่ 4 ธ.ค.ของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมไทยก็มีที่มาจากพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 เช่นกัน

 

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมระบุว่า "วันที่ 4 ธ.ค. 2532 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช มีพระราชดำรัสฯ ใจความเกี่ยวกับปัญหาภาวะโลกร้อนและสิ่งแวดล้อม โดยให้ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของทุกคนในการร่วมมือกันเพื่อการแก้ปัญหา"

 

อีก 2 ปีต่อมาคือในปี 2534 ครม.จึงมีมติให้วันที่ 4 ธ.ค. เป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย "นับเป็นจุดเริ่มต้นยุครุ่งเรืองของงานส่งเสริมเผยแพร่ และสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม" กรมส่งเสริมฯ ระบุบนเว็บไซต์

 

นายวราวุธบอกว่า 4 ธ.ค.ปีนี้ ทส.ก็จะจัดกิจกรรมวันสิ่งแวดล้อมไทยตามปกติ แต่จะเน้นเรื่องความรู้รักสามัคคีเพิ่มเข้าไปด้วย เพราะความสามัคคีกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้นเชื่อมโยงกัน

 

"การรู้รักสามัคคีจะช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทยไว้ได้ เพราะหลายโครงการต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย เช่น การปลูกป่า ในส่วนของ ทส.ก็จะใช้วันรู้รักสามัคคีมาปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ" นายวราวุธกล่าว

 

เผยรัฐบาลสมัคร เคยผุด "วันรู้รักสามัคคี" ถึง 116 วันสยบม็อบพันมิตรฯ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิด "วันรู้รักสามัคคี" ขึ้นในประเทศไทย เพราะถ้าย้อนกลับไปปี 2551 ช่วงที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำลังเผชิญกับการชุมนุมต่อต้านโดยกลุ่มประชาชนที่เรียกตัวเองว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รัฐบาลได้กำหนดให้มี "วันรู้รักสามัคคี" ถึง 116 วัน ภายใต้ชื่อโครงการ "จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี" ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.-3 ธ.ค. 2551

 

"จะมีการเปิดตัวโครงการวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน ดูให้ดีนะ ให้คนไทยรู้รักสามัคคี เริ่มโครงการ 12 สิงหาฯ แล้วก็ถึง 3 ธันวาฯ 2551 ปีนี้นะ แล้วก็ต้องเอา พูดภาษาธรรมดาเป็นชาวบ้าน ก็ต้องเอาลูก เอาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ มาทรงเป็นประธานในงานที่จะให้คนไทยเลิกแบ่งแยกกันนี่ล่ะครับ จะทำอย่างนี้นะ กิจกรรมอย่างนี้นะ ระหว่าง 116 วัน จะมีเดิน-วิ่งเทิดพระเกียรติทั่วประเทศ จากวันแม่ถึงวันพ่อ จะรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงความสามัคคีถวายเป็นพระราชกุศล 116 วัน ทั่วประเทศ" นายสมัครกล่าวในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" เมื่อ 3 ส.ค. 2551

 

กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร เพราะเชื่อว่าเป็น "นอมินี" ของนายทักษิณ ชินวัตร และยังคัดค้านความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ของรัฐบาลพรรคพลังประชาชนด้วย ทำให้ผู้นำฝ่ายบริหารต้องคิดหาทางทำให้คนไทยยุติการแบ่งขั้วการเมือง

 

"จะทำก็เพราะว่าคนไทยแยกกันเป็นฝักเป็นฝ่าย ก็จะใช้เวลา 116 จากวันแม่ถึงวันพ่อ" และ "เพราะแบ่งแยกกันเป็นซีกเป็นฝ่าย ซึ่งข้างไหนมีเท่าไรไม่ทราบได้ แต่ว่างานที่จะทำเนี่ย ก็ยังไม่นับฝ่ายเท่าไหร่หรอกครับ แต่ว่าต้อง มันต้องจบครับ มันต้องเลิก" นายสมัครกล่าว

 

สำหรับกิจกรรมในห้วง 116 วันรู้รักสามัคคีที่รัฐบาลนายสมัครจัดขึ้น มี 5 กิจกรรมหลัก ดังนี้

-10-17 ส.ค. 2551 กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ

-30 ส.ค.- 3 ธ.ค. 2551 กิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศลเฉลิมพระเกียรติ โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นองค์ประธานในพิธีมอบธงสัญลักษณ์โครงการ ในวันที่ 30 ส.ค. 2551 ที่ทำเนียบรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ปลัดกระทรวง ผู้บัญชาการ 4 เหล่าทัพ และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด เป็นผู้ตัวแทนเข้ารับพระราชทานธงสัญลักษณ์โครงการ เพื่อนำไปส่งมอบต่อให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 7,520 คน

  • 15-23 ต.ค. 2551 กิจกรรม 100 ปี พระบรมรูปทรงม้า เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร. 5
  • 14 พ.ย. 2551 งานส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ซึงตรงกับวันพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
  • 3-5 ธ.ค. 2551 กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ

 

ที่มา : บีบีซีไทยเรียบเรียงจากบันทึกการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมการจัดงานพระราชทานธงสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการ "จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี" บันทึกโดยกลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกฯ เมื่อ 19 ส.ค. 2551

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง