บีโอไอปลุกไทยขึ้นเมดิคัลฮับ เอกชนยื่นลงทุนคึกช่วงโควิด
น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนอุตสาหกรรมการแพทย์ หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า บีโอไออยู่ระหว่างสนับสนุนการลงทุนอุตสาหกรรมการแพทย์ เพื่อผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ครบวงจร(เมดิคัล ฮับ) ในภูมิภาคอาเซียน โดยพบว่าหลังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมีแนวโน้มการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก อาทิ อุตสาหกรรมการแพทย์ กิจการเทคโนโลยีชีวภาพ กิจการบริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์
น.ส.ดวงใจ กล่าวว่า การเป็น เมดิคัล ฮับ ไม่ได้หมายถึงการให้คนต่างชาติมารักษา แต่สิ่งสำคัญคือไทยต้องพึ่งพาตนเองได้ก่อนระดับหนึ่ง ช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 รุนแรง ไทยขาดแคลนหน้ากากอนามัย จึงต้องเจรจากับผู้ผลิตที่ได้รับส่งเสริมฯจากบีโอไอให้นำหน้ากากมาขายในประเทศก่อนจะส่งออก กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าไทยต้องหันกลับมาพึ่งพาตนเองให้ได้ โดยหลังจากนี้บีโอไอจะส่งเสริมกิจการใหม่ๆที่จะเข้ามาต่อยอดการผลิตให้มากขึ้น มองให้ครบตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงผลิตภัณฑ์และหากเป็นกิจการคนไทยได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก
น.ส.ดวงใจ กล่าวว่า สำหรับสถิติการลงทุนอุตสาหกรรมการแพทย์และเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ปี 2561 จนถึง 9 เดือนแรกของปีนี้(มกราคม-กันยายน2563) มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 209 โครงการ มูลค่ารวม 56,436 ล้านบาท เมื่อดูเฉพาะอุตสาหกรรมการแพทย์ ตั้งแต่ปี 2561 ถึง 9 เดือนแรกปีนี้ พบว่า มียื่นขอรับส่งเสริมฯ 129 โครงการมูลค่ารวม 30,887 ล้านบาทจากสถิติในอดีตกิจการในกลุ่มการแพทย์ มีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนเฉลี่ยปีละ 30 กว่าโครงการ ขณะที่ปีนี้แค่ 9 เดือนยอดคำขอพุ่งสูงขึ้นถึงกว่า 60 โครงการ เป็นผลจากสถานการณ์โควิด-19 และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2564 จากมาตรการกระตุ้นการลงทุนในอุตสาหกรรมการแพทย์ของบีโอไอ
“จากแนวโน้มการลงทุนดังกล่าว เมื่อเร็วๆนี้บีโอไอจึงนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมกิจการของคนไทยที่รับการส่งเสริมการลงทุนที่เป็นอุตสาหกรรมเป้า และถือเป็นกิจการที่สร้างฐานความรู้ให้แก่สังคมไทย ได้แก่ บริษัทใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด และบริษัท แนบโซลูท จำกัด จัดตั้งโดยคณาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้ง 2 บริษัทใช้เงินลงทุนไม่สูงแต่นับเป็นก้าวเล็กๆที่จะสร้างประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับประเทศไทยที่ไม่อาจประเมินค่าได้”น.ส.ดวงใจกล่าว