คลัง เผย มีปชช.ใช้สิทธิ 4 โครงการรัฐ 41 ล้านคน สร้างเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ 1.83 แสนล้าน
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงการคลังได้เพิ่มวงเงินสนับสนุนมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ โควิด-19 จำนวน 4 โครงการ ข้อมูล ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 มีผู้ใช้สิทธิรวม 41.15 ล้านราย ยอดใช้จ่ายสะสมทั้งหมด 183,865.5 ล้านบาท แบ่งเป็น
1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 13.55 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 16,981.1 ล้านบาท
2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษมีผู้ใช้สิทธิสะสม จำนวน 1.42 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 1,422.6 ล้านบาท
3.โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 26.09 ล้านราย จากผู้ได้รับสิทธิ 27.98 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 161,946.1 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 82,273.6 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 79,672.5 ล้านบาท โดยมีมูลค่าสิทธิที่อยู่ระหว่างการใช้จ่ายกว่า 46,000 ล้านบาท
4.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 90,086 ราย จากผู้ได้รับสิทธิกว่า 4.89 แสนราย โดยเป็นยอดการใช้จ่ายส่วนประชาชนสะสม 3,336 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายส่วน อี-วอยเชอร์สะสม 179.7 ล้านบาทโดยมีมูลค่าวงเงินสิทธิ อี-วอยเชอร์ที่อยู่ระหว่างการใช้จ่ายกว่า 129 ล้านบาท
ในส่วนของการใช้จ่ายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มสำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ล่าสุด ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 เวลา 8.00 น. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีการใช้จ่ายสะสมประมาณ 1,994.3 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนใช้จ่าย 1,028.9 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 965.4 ล้านบาท สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้มีการใช้จ่ายสะสมประมาณ 1.51 ล้านบาท และในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มล่าสุด ขณะนี้มีจำนวนกว่า 75,000 ราย
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือผ่าน จี-วอลเล็ทบนแอพพลิเคชัน เป๋าตัง จนกว่าจะครบ 1 ล้านสิทธิ ซึ่งยังมีสิทธิคงเหลือกว่า 5 แสนสิทธิ โดยประชาชนสามารถใช้จ่ายเพื่อรับ อี-วอยเชอร์ได้ถึง 30 พฤศจิกายน 2564 และใช้จ่ายในส่วน อี-วอยเชอร์ได้ถึง 31 ธันวาคม 2564