รีเซต

โฆษกกต. ยันฉีด AZ ผลิตในไทยเข้าอังกฤษได้ไม่ต้องกักตัว

โฆษกกต. ยันฉีด AZ ผลิตในไทยเข้าอังกฤษได้ไม่ต้องกักตัว
มติชน
8 ตุลาคม 2564 ( 13:15 )
36
โฆษกกต. ยันฉีด AZ ผลิตในไทยเข้าอังกฤษได้ไม่ต้องกักตัว
ข่าววันนี้ นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า อังกฤษได้พิจารณาปรับประเทศไทยออกจากประเทศกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มประเทศสีแดง (Red List) แล้ว จะมีผลตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยนายธานีกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอนว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคทว่ารัฐบาลอังกฤษได้ประกาศผลการพิจารณาทบทวนรายชื่อประเทศและพื้นที่ที่พบการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และความเสี่ยงในการเดินทางรอบล่าสุด โดยปรับให้ไทย และอีกหลายประเทศรวมทั้งประเทศอาเซียน ออกจากกลุ่มประเทศ Red List และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 04.00 น. วันที่ 11 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่นของอังกฤษ
 
 
นายธานีกล่าวว่า ในการปรับเปลี่ยนรายชื่อประเทศครั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษได้มีการปรับปรุงข้อกำหนดใหม่โดยเหลือการกำหนดประเทศและพื้นที่เสี่ยงเพียง 2 กลุ่ม คือกลุ่ม Red List ซึ่งเหลือเพียง 7 แห่ง และกลุ่ม Non-Red List ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าอังกฤษจากประเทศในกลุ่ม Non-Red List ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดส แล้วจากประเทศและวัคซีนที่อังกฤษรับรอง จะไม่ต้องตรวจหาเชื้อแบบ PCR ก่อนเดินทาง และไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางถึงอังกฤษ โดยจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อแบบ PCR ในวันที่ 2 เมื่อเดินทางถึงอังกฤษเท่านั้น
 
 
“รัฐบาลอังกฤษยังประกาศรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศไทยเพิ่มเติมด้วย โดยครอบคลุมถึงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน (vaccine certificate) ของไทย โดยมีวัคซีน 4 ชนิด ที่ให้การรับรอง ได้แก่ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ J&J โดยไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับแหล่งผลิตวัคซีน ทำให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตในประเทศไทยครบจำนวนแล้ว สามารถเดินทางเข้าอังกฤษได้ ส่วนผู้เดินทางจากประเทศไทย ที่รับวัคซีนชนิดอื่น อาทิ ชิโนแวคและชิโนฟาร์ม หรือยังไม่ได้รับวัคซีน ยังต้องมีผลการตรวจหาเชื้อแบบ PCR ก่อนเดินทาง และเข้ารับการกักตัวที่บ้านพักเมื่อเดินทางถึงอีก 10 วัน”นายธานีกล่าว
 
 
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า การพิจารณาปรับไทยออกจากกลุ่มประเทศ Red List ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลสำเร็จจากความพยายามของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการผลักดันร่วมกันและประสานงานกับฝ่ายอังกฤษอย่างเต็มที่ ซึ่งจะส่งผลให้การเดินทางจากไทยมีความสะดวกยิ่งขึ้น และส่งเสริมการท่องเที่ยวจากอังกฤษมายังไทยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีอีกด้วย
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง