เลือกผู้ว่า 2565 : ส่อง "คนดัง" เทใจให้ใครนั่ง ผู้ว่าฯ กทม.
ข่าววันนี้ เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.2565 วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษาภาคม 2565 นี้ เพื่อน ๆ ทรูไอดี คนกรุงเทพหลายคนเตรียมพกบัตรประชาชน ปากกาส่วนตัว สวมหน้ากาอนามัย เตรียมเข้าคูหารับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ 2 สี ลงคะแนนเลือกผู้สมัครชิงเก้าอี้ "ผู้ว่า 2565" - "ส.ก." ในใจกันแน่ ๆ
ส่อง "คนดัง" เทใจให้ใครนั่ง ผู้ว่าฯ กทม.
และอีกหนึ่งสีสันของบรรยากาศก่อนถึงวันลงคะแนน เหล่าคนดังมากมาย ทั้งแวดวงการเมือง แวดวงคนมีชื่อเสียง แวดวงคนบันเทิง ต่างตบเท้าออกมาเชิญชวนคนกรุงเทพ ออกมาใช้สิทธิใช้เสียงลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่า กทม.2565 ในรอบ 9 ปี จะมีใครบ้าง? มาดูกันเลยว่า คนดังเขาเทใจให้ใครนั่งเก้าอี้ "ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 17"
"เทพไท" ย้ำ เทคะแนนให้ "เบอร์4" ไม่เสียของ
มาดูแวดวงนักการเมือง อย่างนายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความว่า
"วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการหาเสียงผู้ว่าฯกทม.แล้ว ถ้าถามว่าทำไมผมต้องเชียร์พี่เอ้ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นผู้ว่าฯกทม. ผมมีเหตุผลส่วนตัวของผมที่ชัดเจน เพราะผมเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และในชีวิตก็เป็นคนสังกัดพรรค มาตั้งแต่เรียนมัธยมที่โรงเรียนปากพนังสังกัดพรรคประดิษฐ์ธรรม (กลุ่มสีฟ้า) เมื่อมาเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็สังกัดพรรคนักศึกษา 7 คณะ และเมื่อมาเป็นนักการเมืองก็เข้าสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และอยากเห็นพรรคการเมืองเข้มแข็ง เป็นสถาบันทางการเมือง เป็นที่พึ่งพิงของประชาชนได้
ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในครั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นการเมืองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษก็ตาม แต่พรรคการเมืองก็มีหน้าที่และบทบาทสำคัญในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผมจึงสนับสนุนให้คนกรุงเทพฯ พิจารณาเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ที่สังกัดพรรคมาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็น ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เบอร์ 4 จากพรรคประชาธิปัตย์ คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เบอร์ 1 จากพรรคก้าวไกล หรือ น.ต.ศิธา ธิวารี เบอร์ 11 จากพรรคไทยสร้างไทย
สำหรับ ดร.สุชัชวีร์ ผมชื่นชมและยอมรับในสปิริต ของความเป็นนักวิชาการ เป็นบุคคลภายนอก แต่ตัดสินใจเดินเข้ามาสมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางกระแสของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ดีเลิศ เหมือนในยุคการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่เมื่อ ดร.สุชัชวีร์ อาสาตัวลงสมัครในนามพรรค ก็ถือว่าเป็นความกล้าหาญ และเป็นความรับผิดชอบร่วมกันกับพรรค ในขณะที่บุคคลอื่นหลายคน ที่เคยสังกัดพรรค แต่พยายามสลัดตัวเองออกจากพรรค เพื่อไปสมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หรือมีวาระซ่อนเร้นอยู่ ก็เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล ซึ่งเชื่อว่าประชาชนสามารถจับได้ไล่ทันในโอกาสหน้า ไม่ช้าก็เร็ว
ไม่ว่าผลการเลือกตั้งในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้จะออกมาเช่นไรก็ตาม แต่ผมก็ภูมิใจในตัวของ ดร.สุชัชวีร์ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยืนหยัดแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง โดยการส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.และผู้สมัครส.ก.ครบ 50 เขต เป็นการทำงานการเมืองแบบตรงไปตรงมา ไม่ใช่ปากว่าตาขยิบ หรือหลอกลวงประชาชนแต่อย่างใด
อดีตเลขาสมช. แนะคนกรุง ไปโหวตผู้ว่าฯ กทม.สร้างภูมิประเทศ ทำปชต.ให้ห่างไกลปฏิวัติ
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทยอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ว่า มั่นใจว่าในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ จะมีทั้งข่าวร้าย ข่าวดี ข่าวร้ายก็คือเป็นวันครบรอบ 8 ปีของการยึดอำนาจที่ก่อให้เกิดรัฐบาลหน้าด้านสืบทอดอำนาจ ซ้ำร้าย ยังเป็นที่มาของผู้ว่ากทม.แต่งตั้งที่เข้ามาถ่วงความเจริญกทม.อีกด้วย ส่วนข่าวดีนั้น จะเป็นวันที่เราจะได้ผู้ว่ากทม.คนใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งแนวโน้มคงไม่ใช่คนที่มีภาพเกี่ยวข้องกับขบวนการยึดอำนาจ สะท้อนถึงการรัฐประหารที่ผ่านมานั้น ประชาชนส่วนใหญ่เขาไม่เอาด้วย ประกอบกับการที่พี่น้องประชาชนต่างก็ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดกันไปแล้วก็ขอใหัปรับมาคิดบวกแปลงเหตุดังกล่าวข้างต้นมาเป็นพลังร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกัน ”ฉีดวัคซีนให้ประชาธิปไตยห่างไกลปฏิวัติ”
โดยเข็มที่ 1 ตัดวงจรอำนาจกองทัพที่ใช้เงินภาษีมาล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เข็มที่ 2 กระบวนการยุติธรรมต้องไม่ยอมรับหรือสนับสนุนการก่อการรัฐประหาร และเข็มที่ 3 ประชาชนร่วมแรงร่วมใจไม่ยินยอมและต่อต้านการปฏิวัติ ครรลองประชาธิปไตยต้องห่างไกลปฏิวัติ ประชาชนต้องเป็นใหญ่ ผลการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.คนใหม่คือบทพิสูจน์และคำตอบ
พิธา ก้าวไกล ชวน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และ นายกเมืองพัทยา ออกมาใช้สิทธิ
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และ นายกเมืองพัทยา ออกมาใช้สิทธิ โดย ระบุว่า 22 พฤษภา ออกไปเลือกตั้งกรุงเทพ-พัทยาให้ถล่มทลาย จบยุคที่ผู้ว่าไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
22 พ.ค. 57 เมื่อ 8 ปีที่แล้ว คือวันแห่งความสิ้นหวัง เป็นจุดเริ่มต้นทศวรรษที่สูญหายของประเทศ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศอยู่ใต้ท็อปบู๊ทคณะรัฐประหาร กรุงเทพและพัทยามีผู้บริหารที่มาจากการแต่งตั้งตามมาตรา 44
แต่ในวันที่ 22 พ.ค. 65 ที่กำลังจะถึง คือวันแห่งความหวังที่เราจะจบการบริหารท้องถิ่นภายใต้ระบบรัฐประหาร และเริ่มต้นผู้บริหารท้องถิ่นชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย
วันที่ 22 พ.ค. 65 ที่กำลังจะถึงนี้ ผมจึงอยากชวนทุกคนออกไปเลือกตั้งด้วยความหวัง ให้ออกไปเลือกด้วยความรู้สึกเหมือนกับวันที่ 24 มี.ค. 62 ที่เราเชื่อว่าเสียงของเราสามารถเปลี่ยนอนาคตของประเทศนี้ได้
เสียงเลือกตั้งของทุกท่านมีความหมาย ไม่ว่าท่านจะรักใครชอบใคร ร่วมกันออกไปเลือกตั้งให้ถล่มทลาย ร่วมกันกำหนดอนาคตเมืองของเราเองครับ
นิ้วกลม นักเขียนดัง โพสต์เลือกใครนั่งผู้ว่า 2565 ตัดสินใจยากระหว่าง 8 กับ 1
มาที่หนุ่มนักเขียนดังอย่าง "นิ้วกลม" ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Sarawut Hengsawad" เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่า 2565 ว่า" ตัดสินใจยากระหว่าง 8 กับ 1 แต่คิดทบทวนหลายรอบแล้วลงเอยที่ 8
สนใจอาจารย์ชัชชาติตั้งแต่ประกาศตัวว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่รู้เลยว่าจะมีเลือกตั้งผู้ว่าฯ กันปีไหน กระทั่งไม่แน่ใจว่าจะได้เลือกกันหรือเปล่า เห็นเจตนาอยากเข้ามาทำงานแก้ปัญหาจริงจัง ลงพื้นที่ทำงานหลายเรื่องมาโดยตลอด ขยะ คลอง โควิด ฯลฯ--อันนี้เห็นความตั้งใจจริง
อีกอย่างคือได้คุยกับคนหนุ่มสาวที่ไปช่วยงานอาจารย์ชัชชาติแล้วได้ฟีดแบ็กกลับมาว่าแกตั้งใจจริง ที่สำคัญคือเป็นผู้นำที่รับฟังความคิดเห็น มีคุณสมบัติที่มีแรงดึงดูดให้คนอยากทำงานด้วย ทำงานแล้วรู้สึกมีสิทธิมีเสียง สัมผัสได้ว่าหัวหน้าทีมเอาจริง
มาฟังนโยบายและวิธีแก้ปัญหาก็รู้สึกวางอยู่บนข้อมูลและรายละเอียด บวกรวมไปกับคาร์แรกเตอร์ที่มีท่าทีของการประสานงาน ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเหมาะกับปัญหาจิปาถะของกรุงเทพฯ
ส่วนตัวมองว่าอาจารย์ชัชชาติเป็นคนที่น่าจะดึงพลังคนที่หลากหลายเข้ามามีส่วนร่วมได้มาก อาจได้เห็นภาพความร่วมมือใหม่ๆ เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งน่าตื่นเต้นดีในบรรยากาศการเมืองที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ซึ่งศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเทพฯ เราอาจได้เห็นภาพใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
แต่ยอมรับว่าหวั่นไหวกับเบอร์ 1 คุณวิโรจน์ เพราะจุดยืนชัดเจน นำไปสู่วิธีปฏิบัติที่ชัดเช่นกัน อยากรู้เหมือนกันว่าถ้ามีผู้ว่าฯ แบบนี้เข้าไปชนกับปัญหาสารพันที่หมักหมมมา โดยเฉพาะเรื่องคอร์รัปชั่นและความเหลื่อมล้ำ จะเปิดโปงปัญหาออกมาได้ขนาดไหน แก้ไขระบบระเบียบต่างๆ ได้ดีกว่าที่เคยหรือเปล่า
ชอบคุณวิโรจน์เช่นกัน และลังเลใจ
ทบทวนอยู่หลายวัน สุดท้ายก็คิดว่าใจเอียงไปทางคุณชัชชาติ (พยายามไตร่ตรองทั้งด้วยเหตุผลและความรู้สึก) ทั้งนี้ก็ประมวลรวมจากหลายเวทีดีเบต คลิปต่างๆ ก็รู้สึกว่าอยากให้โอกาสอาจารย์ชัชชาติได้ทำงาน ส่วนคุณวิโรจน์นั้นเชื่อว่ายังมีที่ทางที่จะขับเคลื่อนประเด็นสวัสดิการในตำแหน่งอื่นอีก กระนั้นก็เชียร์ความเปลี่ยนแปลงแบบที่คุณวิโรจน์บอก ผมแอบคิดเหมือนที่มีคนคอมเมนต์เล่นๆ ว่า "ชัชชาติเป็นผู้ว่าฯ วิโรจน์เป็นรอง" ก็เลยกะจะเลือกส.ก.ของก้าวไกลเข้าไปส่ง 'เสียงแบบวิโรจน์' อยู่ด้วย
ยากจริงๆ ครับครั้งนี้ แต่ก็คิดว่าจะเลือกแบบนี้ ผู้สมัครท่านอื่นอีกหลายท่านก็คิดว่าน่าจะยังได้เห็นพวกท่านโลดแล่นอย่างน่าสนใจบนเวทีการเมืองอีก ก็จะรอติดตามครับ
เราอาจคิดเห็นไม่ตรงกัน (หรือตรง?) นี่คือความสวยงามของประชาธิปไตย ดีที่สุดคือ เราได้ใช้สิทธิ์ใช้เสียงของเรา ได้เลือกตั้งเสียที (สนับสนุนให้จังหวัดอื่นๆ ได้เลือกแบบนี้เช่นกัน) และโชคดีที่ไม่มี 250 เสียงมาเลือกผู้ว่าฯ ด้วย
ลุ้นให้คนกรุงเทพฯ ออกไปเลือกตั้งกันเยอะๆ ครับ ผลออกมาแบบไหนก็เคารพการตัดสินใจของเพื่อนร่วมเมือง จะว่าไป ถ้า 8 ได้ก็รอลุ้นว่าเราคาดถูกไหมว่าอาจารย์ชัชชาติจะเป็นผู้ว่าฯ ที่ดี แต่ถ้า 1 ได้ก็ดีใจไปอีกแบบว่าสิ่งที่คุณวิโรจน์อยากผลักดันจะสำเร็จได้มากเพียงใด ถ้าเบอร์อื่นได้ก็รอชมฝีมือเช่นกันครับ
การได้เลือกตั้งมันดีแบบนี้นี่เอง คนที่เสนอตัวทำงานต้องตอบคำถาม ต้องคุยกับประชาชน ต้องรับฟังพ่อแม่พี่น้อง เมื่อฟังรอบด้านแล้วก็เลือก
ผมเลือกเบอร์ 8 ครับ
และอย่าลืมออกมาใช้สิทธิ ไม่นอนหลับทับสิทธิ์กันนะ มาลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่า กทม.2565 เลือกคนดีเข้ามาพัฒนากรุงเทพ พัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
กดเลย >> community แห่งความบันเทิง
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี