“เจ๊วรรณ” ซาปั๊วหวยลานพญานาค ลุ้นศาลขอประกัน ยอมรับนำเงินไปใช้หนี้ยี่ปั๊ว
นครพนม – “เจ๊วรรณ” ซาปั๊วหวยลานพญานาค ลุ้นศาลขอประกัน ยอมรับนำเงินไปใช้หนี้ยี่ปั๊ว เพื่อนร่วมแผงเผยชอบเว่อร์
จากกรณี ได้มีกลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 18 คน ส่วนใหญ่ตั้งแผงขายอยู่บริเวณลานพนมนาคา องค์พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คชื่อดัง ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ร่วมตัวเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีกับนางวรรณดี จันลุน อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 212 หมู่ 8 บ้านนาหลวง ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นซาปั๊วที่อ้างว่ามีความสนิทสนมกับยี่ปั๊วย่านสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี สามารถซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ในราคาที่ถูกกว่าแหล่งอื่น ประมาณใบละ 70-75 บาท เพราะโดยปกติคนขายลอตเตอรี่จะรับมาในราคาใบละ 80-85 บาท จึงลงขันกันซื้อติดต่อกันมาหลายงวด และไม่เคยมีปัญหา เพิ่งจะเจอเป็นครั้งแรกต่างสูญเงินกันไปตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 10 ล้านบาท รวมแล้วถึงขณะนี้มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 31 ล้านบาท ซึ่งนางวรรณดีได้ย่องเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนช่วงเที่ยงวันของวันที่ 25 มีนาคม 2563 ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
คืบหน้า หลังนางวรรณดีผู้ต้องหาเดินทางมาพร้อมกับทนายความ ผู้เสียหายทราบข่าวจึงทยอยกันมาที่โรงพักอีกครั้ง เพื่อสอบถามว่าเอาเงินที่โอนให้ไปไหนหมด ก็ได้รับคำตอบว่าโอนให้ยี่ปั๊วที่อ้างรู้เพียงชื่อเล่นว่า”เสี่ยจาน” ติดต่อชื้อขายลอตเตอรี่กันมานานแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนางวรรณดี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า”ร่วมกันฉ้อโกงประชาน” โดยมีนายประมูล รุ่งเป้า สามีเป็นผู้ต้องหาร่วมอีกคน แต่ขณะนี้ยังไม่ติดต่อขอมอบตัว
จากคดีดังกล่าวเปิดเผยเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2563 กลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมตัวกันเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน หลังสอบปากคำแล้วจึงส่งเรื่องให้ตำรวจสายสืบ บก.ภ.จว.นครพนม และสืบสวนจังหวัดฯ ร่วมกันลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง กระทั่งทราบเบื้องต้นว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคน ประกอบด้วย นางวรรณดี จันลุน และ นายประมูล รุ่งเป้า เป็น ส.อบต.แห่งหนึ่ง ได้หลอกลวงผู้เสียหายจำนวน 18 ราย ด้วยการชักชวนให้สั่งซื้อลอตเตอรี่ ในราคาใบละตั้งแต่ 55-80 บาท ซึ่งในการสั่งซื้อผู้ต้องหาจะให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร รวม 3 เล่ม มีสาขานครพนม 2 เล่ม และสาขาสนามบินน้ำ 1 เล่ม โดยตั้งแต่วันที่ 1-7 มีนาคม 2563 ผู้เสียหายได้โอนเงินสั่งซื้อลอตเตอรี่ งวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2563 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 24,400,000 ล้านบาท (ยี่สิบสี่ล้านสี่แสนบาทถ้วน) ซึ่งหลังโอนเงินแล้วผู้ต้องหาจะนัดให้ไปรับสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ลานพญาศรีสัตตนาคราชหรือบ้านเลขที่ 212 หมู่ 8 บ้านนาหลวง ต.ท่าค้อ แต่เมื่อถึงกำหนดสองผัวเมียคู่นี้ไม่นำลอตเตอรี่ตามที่ตกลงมามอบให้ และในเวลาต่อมาก็ไม่สามารถติดต่อคนทั้งสองได้ จึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกลวง จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดังกล่าว
หลังผู้เสียหายเจอหน้านางวรรณดีแล้ว ผู้ต้องหาก็อ้างมีเงินเหลือติดบัญชีธนาคารเพียง 115 บาท หลายคนจึงเกิดความทุกข์ใจเพราะ โอกาสจะได้เงินคืนนั้นคงริบหรี่ ซึ่งต่อมานายณพจน์สกร ทรัพยสิทธิ์ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม ได้เสนอตัวขอเป็นทนายความให้ผู้เสียหายโดยไม่คิดมูลค่า โดยจะนัดมาให้รายละเอียดอีกครั้งในวันถัดไป
ขณะเดียวกันเพื่อนๆที่วางแผงขายลอตเตอรี่ใกล้กับแผงของนางวรรณดีผู้ต้องหา เปิดเผยว่าตนไม่ได้ตกเป็นเหยื่อหวยต้นทุนถูกที่นางวรรณดีมาล่อ เพราะรู้ต้นทุนอยู่แล้วว่าราคาของยี่ปั๊วเท่าไหร่ การที่ผู้ต้องหาอ้างสามารถซื้อหวยได้ในราคาที่ถูกกว่านั้น เพื่อต้องการจะสร้างเพาเวอร์ให้คนขายหวยยอมรับ โดยยอมขาดทุนซื้อลอตเตอรี่จากยี่ปั๊วในราคาที่กำหนด เช่นซื้อใบละ 85 บาท นำมาขายให้ผู้ค้าปลีกในราคาใบละ 80 บาท ใช้วิธีหมุนเงินในบัญชีไปมา ประกอบกับนางวรรณดีชอบเล่นหวย มีรถยนต์อยู่ 5 คัน ก็จะรวบรวมลอตเตอรี่เลขทะเบียนรถทั้ง 5 คัน มาไว้ลุ้นรางวัล ไม่น้อยกว่า 500ใบ/งวด เคยมีข่าวเสนอว่านางวรรณดีถูกลอตเตอรี่เลขท้าย 3 ตัว มากถึง 150 ใบ เพราะเก็บหวยเลขทะเบียนรถไว้เอง “ส่วนที่ไม่ถูกแต่ละงวดคิดเป็นเงินเท่าไหร่” เพื่อนร่วมแผงเผย
เพื่อนรายเดิมเล่าต่อว่า เมื่อหมุนเงินชักหน้าไปหลังไม่ได้ มันก็ถึงเวลาน็อคเอาท์ นางวรรณดีที่เคยสวมใส่ทองคำทั้งสร้อยข้อมือท่วมแขน สร้อยคอเส้นเบ้อเร่อก็เผ่นไปตั้งหลัก ก่อนจะโผล่ออกมาบีบน้ำตาว่าถูกยี่ปั๊วหลอก ส่วนตัวเชื่อว่ายี่ปั๊วไม่ตัดช่องทางทำมาหากินแบบนี้หรอก เพราะเป็นเสือนอนกินแต่ละงวดมีเงินไหลเข้าบัญชีไม่รู้กี่ล้านบาท
ด้านนางวรรณดีได้ให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่มีเจตนาโกง แต่เอาเงินไปใช้หนี้ และจะหามาชดใช้ภายหลัง ตำรวจจึงได้คุมตัวนำไปเสนอศาลจังหวัดนครพนมขออนุมัติฝากขัง ส่วนการประกันตัวต้องรอการพิจารณาของศาล นอกจากนี้ในส่วนของนายประมูลสามี ตำรวจจะเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งสอง หากพบหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำผิด จะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ในช่วงที่ผู้ต้องหาเข้ามามอบตัว ได้มีผู้เสียหายหลายราย เดินทางมาติดตามทวงเงิน แต่ผู้ต้องหายังยืนยันที่จะหามาชดใช้ และขอต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยจากการตรวจสอบ พบว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายราย ที่กำลังรวบรวมหลักฐานเข้า แจ้งความเพิ่มเติม คาดว่าจะมีผู้เสียหายในคดีนี้ไม่ต่ำกว่า 50 ราย และมีวงเงินมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 60 -70 ล้านบาท บางรายพบว่า มียอดความเสียหายมากกว่า 10 -15 ล้านบาท
นางวรรณดีผู้ต้องหา เปิดเผยว่าได้ติดต่อกับกลุ่มผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อย ในพื้นที่จังหวัดนครพนม หลังตนสามารถติดต่อซื้อลอตเตอรี่กับยี่ปั๊วรายใหญ่ที่ กทม. และได้ราคาถูกกว่ายี่ปั๊วทั่วไป คือ ราคาใบละประมาณ 70 -75 บาท จากปกติที่ซื้อกันราคาใบละ 80 -85 บาท จากนั้น จึงติดต่อลูกค้าในพื้นที่ได้หลายราย และสั่งซื้อมาให้ได้จริง ทำหน้าที่ซาปั๊วมาเกือบปีเห็นว่าได้กำไร จึงติดต่อซื้อเพิ่มขึ้น และมีลูกค้าเข้ามาติดต่อซื้ออีกจำนวนมาก จนกระทั่งงวดล่าสุดประจำวันที่ 1 เมษายน 2563 มีกลุ่มผู้ค้ารายย่อยที่เป็นผู้เสียหายเข้ามาติดต่อซื้อหลายราย และทยอยโอนเงินให้เพื่อจะนำลอตเตอรี่มาขายในงวดวันที่ 1 เมษายน 2563 แต่เกิดปัญหาขึ้น เนื่องจากตนมีการติดต่อซื้อขาย และเป็นหนี้สินกับยี่ปั๊วที่ กทม.มาหลายงวด จึงตัดสินใจนำเงินลูกค้ากว่า 20 ล้านบาท โอนไปจ่ายหนี้ยืนยันว่ายี่ปั๊วไม่ได้โกง และตนไม่มีเจตนาโกง เพียงมีปัญหาจึงเอาเงินไปใช้หนี้ คิดว่าจะได้เครดิตลอตเตอรี่มาให้ลูกค้า และจะพยายามหาเงินมาใช้หนี้ พร้อมขอต่อสู้คดีตามกระบวนการทางกฎหมาย