รีเซต

พิจิตรป้องกันเมือง คาดแม่น้ำน่านสูงสุดวันนี้

พิจิตรป้องกันเมือง คาดแม่น้ำน่านสูงสุดวันนี้
TNN ช่อง16
4 ตุลาคม 2568 ( 13:39 )
5

วันนี้ (4 ต.ค.68) สถานการณ์น้ำในแม่น้ำน่าน ี่อำเภอเมืองพิจิตร อำเภอตะพานหิน และอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร หลังจากเขื่อนสิริกิติ์ ได้ปรับแผนการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนเป็นวันละ 25 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ระบายน้ำ 17 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ประกอบกับระดับน้ำในแม่น้ำน่านในปัจจุบัน มีปริมาณมากเกินความจุเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รวมทั้งมีมวลน้ำจากลำคลองสาขาต่างๆไหลสมทบเข้ามาสู่แม่น้ำน่านในจังหวัดพิจิตรอย่างต่อเนื่อง


โดยวันนี้ ปภ.จังหวัดพิจิตร คาดการณ์ว่ามวลน้ำน่านก้อนใหญ่ดังกล่าวจะไหลเข้าสู่พื้นที่จังหวัดพิจิตร และคาดการณ์ว่าในช่วงค่ำนี้ระดับน้ำน่าน จะเพิ่มขึ้นสูงสุด หรือ เรียกว่าจุดพีกสุดถึง 12.50 เมตร จากระดับตลิ่ง 09.87 เมตร ที่จุดวัดน้ำน่าน N-7A บ้านราชช้างขวัญ อำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งเมื่อเวลา 07.00 น. วัดระดับน้ำน่านได้ 11.35 เมตร อัตราการไหล 1,215 ลบ.ม./วินาที ดังนั้น ปภ.จังหวัด ร่วมกับหลายหน่วยงาน ได้สนธิกำลังบูรณการนำกระสอบทราย และถุงทรายบิ๊กแบ็คจำนวนมากเสริมคันดิน และพนังคอนกรีตเดิมริมตลิ่งแม่น้ำน่านให้มีความแข็งแรงและเพิ่มความสูงจากแนวเดิมอย่างน้อย 1-2 เมตรเพื่อป้องกันมวลน้ำก้อนใหญ่ ทะลักเข้าสู่ย่ายเศรษฐกิจตัวเมืองพิจิตร 

นายกิติพล  เวชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ลงพื้นที่ติดตามแม่น้ำน่าน เอ่อล้นตลิ่งคุ้งน้ำหมู่ที่ 1 ตำบลฆะมัง กระแสน้ำน่านได้ไหลแรงเชี่ยวกราดจุดโค้งลำน้ำ กัดเซาะถนนคอนกรีตเชื่อมต่อระหว่างตำบลฆะมัง และตำบลหัวดง ด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำน่าน พังทลายทรุดหายลงไปกับแม่น้ำน่านระยะทางยาวเกือบ 100 เมตร และบางจุดกัดเซาะใต้ถนนเป็นโพรงลึก และมีแนวโน้มพังทลายต่อเนื่องเหลือเพียงไม่กี่เมตรน้ำจะกัดเซาะเข้าสู่หลายหมู่บ้าน และที่ตั้งระบบประปาขนาดใหญ่ ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้สั่งการให้ปิดถนนเส้นทางดังกล่าวและให้เป็นเขตพื้นที่อันตราย รวมทั้งให้หลีกเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นแทน โดยมีชาวบ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดมเสริมคันกระสอบทรายหวังว่าไม่ให้มวลน้ำทะลักเข้าในหมู่บ้านต่างๆได้

รองผู้ว่าฯพิจิตร ให้ข้อมูลว่าในค่ำคืนวันนี้กับในวันพรุ้งนี้เป็นช่วงที่คาดการร์ว่ามวลน้ำน่านจะขึ้นสูงสุดถึง 12.50 เมตร จึงได้บูรณาการทุกภาคส่วนเร่งเสริมคันดิน คันกระสอบทราย ตามจุดเสี่ย และจุดน้ำที่รั่วไหลให้มีความแข็งแรงและเพิ่มระดับให้สูงขึ้นทุกจุดอีกเท่าตัว พร้อมกันนี้ในพื้นที่เสี่ยงได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ขนย้ายสิ่งของสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูงและปลอดภัย



จากสถานการณ์น้ำท่วมมีผู้เสียชีวิตจากกระแสน้ำท่วม 2 จุด รวม 2 ราย ๆแรกบริเวณเส้นทางถนนบ้านไผ่ท่าโพ-ดงเสือเหลือ ม.ที่ 5 ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง มีน้ำท่วมสูงไหลข้ามถนน นายสามารถ เกตุแก้ว อายุ อายุ 63 ปี (ผู้เสียชีวิต) ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากตลาดไผ่ท่าโพ เพื่อที่จะกลับบ้านที่ตำบลดงเสือเหลือ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีน้ำไหลข้ามถนนและพบงูเห่าลอยน้ำบนพงหญ้าอยู่จึงจอดรถเพื่อที่จะไปจับงูแต่กระแสน้ำที่ไหลแรงเชี่ยวกราดพัดเอาร่างของนายสามารถ จมหายไปกับกระแสน้ำ ต่อหน้าภรรยาซึ่งกู้ภัยระดมค้นหาร่างอยู่ในขณะนี้  ส่วนอีกรายที่บริเวณ ถ.บางมูลนาก-วังสำโรง อ.บางมูลนาก นายทศพร วรอินทร์ อายุ 51 ปี (ผู้เสียชีวิต) เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจุดอำเภอหนองบัว จ.นครสวรรค์ ขับรถยนต์กระบะกู้ภัย หมายเลขทะเบียน บร-4592 นครสวรรค์ มากับภรรยาเพื่อที่จะมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอบางมูลนาก เมื่อมาถึงบริเวณถนนระหว่าง ต.วังสำโรง-บางมูลนาก ไม่ชำนาญเส้นทางได้กลับรถเพื่อไปหาจุดพิกัดที่ชาวบ้านประสบภัยน้ำท่วมแต่ขณะกลับรถเกิดไถลตกลงไปในบริเวณท่อน้ำที่มีน้ำท่วมสูงกว่า  1 เมตรจมทั้งรถทั้งคน ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ช่วยเหลือนางสุนันท์ วรอินทร์ ซึ่งเป็นภรรยาไว้ได้อย่างปลอดภัย  


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง