SUNผลงานครึ่งปีหลังโดด รุกเจาะตลาดเกาหลี-ญี่ปุ่น

#SUN #ทันหุ้น – SUN แย้มยอดขายครึ่งปีหลัง 2567 โตดีกว่าครึ่งปีแรก หนุนจากออเดอร์ที่เลื่อนจากไตรมาส 1/2567 ค่าเงินบาทอ่อนตัว และสงครามที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ พร้อมเดินหน้าออกสินค้าใหม่ๆ ส่งออกต่างแดน เจาะตลาดเกาหลี - ญี่ปุ่น เตรียมการเพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มสินค้าพร้อมทาน (RTE) แตะ 2 เท่าตัวภายในสิ้นปี 2567 นี้
ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายในช่วงครึ่งปี 2567 หลังคาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก โดยมาจากปัจจัยสนับสนุนของออเดอร์ที่เลื่อนการรับรู้จากไตรมาส 1/2567 ค่าเงินบาทที่อ่อนตัว และมาจากปัญหาสงครามที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ ซึ่งเป็นอานิสงส์เชิงบวกทำให้มีการกักตุนสินค้ามากขึ้น ขณะที่การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศปัจจุบันยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่บริษัทยังสามารถบริหารจัดการการขนส่งและวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี
*เล็งออกสินค้าใหม่
นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังมีแผนออกสินค้าใหม่เพิ่มต่อเนื่องมากกว่าครึ่งปีแรก เสิร์ฟตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยแบ่งเป็นสินค้าที่เตรียมขายในต่างประเทศจำนวน 4 SKU คือ ข้าวโพดหมาล่า มันหนึบ ข้าวโพดกระป๋องไซซ์มินิขนาดพกพา และข้าวโพดปิ้งขนาดเล็ก เป็นต้น โดยช่วงไตรมาส 3/2567 จะเตรียมส่งข้าวโพดหมาล่า ไปตลาดเกาหลี ภายหลังจากการเจรจาจับมือกับพันธมิตรภายในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 ที่ผ่านมา
รวมถึงเดินหน้าขยายตลาดญี่ปุ่น พัฒนาสินค้ามันหวานญี่ปุ่น (Sweet Potato) แบรนด์ KC ซึ่งจะเริ่มส่งมอบไตรมาส 3/2567 โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการตลาดและวางจำหน่ายใน Convenience store ที่เป็นร้านค้าปลีกรายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งมีสาขามากกว่า 3,000 สาขาในประเทศญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะช่วงหนุนยอดขายและสร้างรายได้แบบก้าวกระโดดได้เเละยั่งยืนในอนาคต
*เป้ารายได้โต 10-15%
สำหรับแผนการเติบโตของบริษัทในปี 2567 คาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตมากกว่าปีก่อนที่ราว 10-15% โดยรายได้กว่า 70-80% มาจากการส่งออก โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้เตรียมการเพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มสินค้าพร้อมทาน (RTE) โรงงาน Mini Factory 2 จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 180,000-200,000 ชิ้นต่อวัน หรือราว 2 เท่าตัว ภายในสิ้นปีนี้ เเละมีแผนพัฒนาอายุการเก็บรักษา (Shelf Life) ผลิตภัณฑ์ เพื่อสอดรับกับความต้องการของลูกค้าต่างประเทศ และเหมาะสมกับการส่งออกในอนาคต
ด้านการลงทุนในปี 2567 บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมลงทุนทางด้านพลังงานไฟฟ้าสะอาด เพื่อใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 1 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 70-100 ล้านบาท
*แนะนำซื้อ 5.70 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง SUN ว่า คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/2567 ยังคงขยายตัว YoY, QoQ จากปริมาณวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น, อีกทั้งมีออเดอร์ที่เลื่อนการรับจากไตรมาสที่ 1/2567 และคาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยได้ประโยชน์จากบาทอ่อน และ Utilization Rate ที่ขยายตัว
นอกจากนี้มองว่าจะบริษัทได้รับออเดอร์ใหม่เพิ่มขึ้นจากงาน Thaifex – Anuga Asia ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 28 พฤษภาคม -1 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยจะมีลูกค้าต่างชาติเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยออเดอร์ใหม่จากงานจะเริ่มทยอยส่งตั้งแต่ไตรมาส 3/2567 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ สงครามทะเลแดงซึ่งสถานการณ์ยังทรงๆ อาจส่งผลกระทบต่อ Logistic หากมีความรุนแรงขึ้น และสภาพอากาศที่ร้อนมากในปัจจุบัน อาจส่งผลกระทบต่อวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน บริษัทฯยังไม่ได้รับผลกระทบ และยังบริหารจัดการวัตถุดิบได้ดี ฝ่ายวิเคราะห์คงประมาณกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% YoY โดยคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2567 เป็นต้นไป โดยจะมี Trade Fair ทั้งในและต่างประเทศ หนุนออเดอร์ใหม่ๆ เพิ่ม
ทางด้านราคาหุ้นทรงตัวเมื่อเทียบกับ SET ใน 1 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายวิเคราะห์ชอบ SUN จาก Valuation ที่ไม่แพงโดยเทรดที่ 2567 PER 9.1x เทียบกับ 2566-2565 EPS CAGR ที่ 14% และยังมี Upside จาก M&A แนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 5.70 บาท อิง 2567E PER 11.5x (เดิม 7.00 บาท) สะท้อน Dilution ของหุ้นปันผลที่ 5 : 1 (XR วันที่ 30 มิ.ย.) ให้มุมมองเป็นกลาง