ผู้บริหารแอสตร้าเซนเนก้าเผย เดือนก.ย. ส่งมอบวัคซีนให้ สธ. 8 ล้านโดส มากกว่าที่ตกลงกัน

บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เผยเร่งกำลังการผลิตและส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ให้ไทยเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าในเดือน ก.ย. จะส่งมอบได้ทั้งหมด 8 ล้านโดส มากกว่าจำนวนที่ตกลงกันไว้กับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่าจะส่งมอบ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน

นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยในการสัมมนาออนไลน์ "ธุรกิจ-สังคม สร้างภูมิคุ้มกัน ฝ่าภัยโควิด" จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจวันนี้ (29 ก.ย.) ว่า นับตั้งแต่การส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าโดสแรกในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา บริษัทได้ส่งมอบวัคซีนให้กับกระทรวงสาธารณสุขไปแล้วกว่า 24 ล้านโดส

นายทีกกล่าวว่าในการขยายห่วงโซ่การผลิตวัคซีนในระดับนานาชาติ บริษัทมีโรงงานเครือข่ายที่ผลิตวัคซีนกว่า 25 แห่งทั่วโลก หนึ่งในนั้นอยู่ที่ไทยคือโรงงานของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด โดยเขายอมรับว่าช่วงเริ่มแรกเป็นช่วงที่ยากลำบากเนื่องจากต้องมีการเตรียมตัวและการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นสายพานการผลิต แต่การตั้งโรงงานในไทยถือว่าใช้เวลาค่อนข้างรวดเร็วคือเพียง 9 เดือนเท่านั้น จากปกติที่ต้องใช้เวลานับสิบปี

จากความยากลำบากในช่วงเริ่มต้น ส่งผลให้การผลิตและการส่งมอบวัคซีนที่ผลิตจากโรงงานในไทยไม่มีความสม่ำเสมอมากนักจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมว่าส่งมอบไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารบริษัทแอสตร้าเซนเนก้ารายนี้ยืนยันว่าจะส่งมอบวัคซีนให้ไทยได้ตามที่เคยให้คำมั่นไว้ในหนังสือเปิดผนึกที่เผยแพร่เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา

"เราได้ทำตามคำมั่นสัญญาที่มีต่อสาธารณะนับตั้งแต่วันแรกที่สามารถส่งมอบวัคซีนล็อตแรกได้ในวันที่ 7 มิ.ย. และเรายังสามารถผลิตและส่งมอบวัคซีนให้กับไทยได้ 5-6 ล้านโดส (ต่อเดือน) อีกด้วย และรวมการส่งมอบตลอดเดือน ก.ย. นี้ จะมีจำนวนกว่า 8 ล้านโดส" นายทีกกล่าว

ในการเสวนาเขายังได้ย้อนเล่าถึงช่วงต้น ๆ ของการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ร่วมระหว่างแอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กับ สธ. และบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งมีสาระสำคัญว่าห่วงโซ่การผลิตวัคซีนนี้ก่อตั้งขึ้นในไทยเพื่อคนไทยและคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังได้ระบุถึงการแบ่งสันปันส่วนวัคซีนที่ผลิตในแต่ละเดือนได้ราว 30% ให้แก่ไทย ส่วนที่เหลือจะส่งมอบไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้

"ผมคิดว่า จุดสำคัญที่สุดคือ คนไทยควรจะรู้สึกภูมิใจในบทบาทไทยในการเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ในภูมิภาคด้วย" ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการมีโรงงานผลิตวัคซีนเพื่อคนไทยและการส่งออก

สำหรับประเด็นด้านความปลอดภัยและการรับรองมาตรฐาน ซึ่งที่ผ่านมามีสื่อหลายสำนักรายงานว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในโรงงานของสยาม ไบโอไซเอนซ์ ยังไม่ได้การรับรองจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศอย่างองค์การอนามัยโลก และรวมถึงองค์กรด้านอาหารและยาในต่างประเทศ หนึ่งในนั้นคือ สหราชอาณาจักร ซึ่งถือเป็นถิ่นกำเนิดของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าด้วย

ผู้บริหารรายนี้ อธิบายว่า วัคซีนที่ผลิตโดยโรงงาน 25 แห่งภายใต้สัญญาของบริษัทมีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ซึ่งผ่านการทดสอบมาตรฐานอย่างน้อย 60 แบบทดสอบ แต่ในส่วนการรับรองของแต่ละองค์กรต้องใช้เวลาและมีขั้นตอนซับซ้อนเนื่องจากมีเอกสารจำนวนมากกว่าหนึ่งพันหน้า และอยู่ระหว่างการพิจารณาขององค์การอนามัยโลกและคาดว่าจะได้รับการประกาศรับรองในเร็ว ๆ นี้

แผนการฉีดวัคซีนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564

ข้อมูลการแถลงข่าวของ ศบค. เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีการฉีดวัคซีนทั้งหมด 94 ล้านโดส แบ่งเป็น

ต.ค. 2564 รวม 30 ล้านโดส

• วัคซีนซิโนแวค 6 ล้านโดส
• แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส
• ไฟเซอร์ 8 ล้านโดส
• ซิโนฟาร์ม 6 ล้านโดส

พ.ย. 2564 รวม 25.5 ล้านโดส

• แอสตร้าเซนเนก้า 13 ล้านโดส
• ไฟเซอร์ 10 ล้านโดส
• ซิโนฟาร์ม 12.5 ล้านโดส

ธ.ค. 2564 รวม 38.5 ล้านโดส

• แอสตร้าเซนเนก้า 14 ล้านโดส
• ไฟเซอร์ 10 ล้านโดส
• ซิโนฟาร์ม 12.5 ล้านโดส
• โมเดอร์นา 2 ล้านโดส

+++++++++++++

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ข่าวสด เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว