รีเซต

แม่ทุกข์ระทม จำใจแจ้งความเอาผิดลูกสาว เงินแสนหายเกลี้ยง ทองปลอมมาเปลี่ยน

แม่ทุกข์ระทม จำใจแจ้งความเอาผิดลูกสาว เงินแสนหายเกลี้ยง ทองปลอมมาเปลี่ยน
ข่าวสด
23 กุมภาพันธ์ 2565 ( 11:37 )
100
แม่ทุกข์ระทม จำใจแจ้งความเอาผิดลูกสาว เงินแสนหายเกลี้ยง ทองปลอมมาเปลี่ยน

แม่ทุกข์ระทม จำใจแจ้งความเอาผิดลูกสาว หลังเงินแสนหายเกลี้ยงบัญชี แอบเอาทองปลอมมาเปลี่ยน ตอนนี้หนีหาย ยังจับตัวไม่ได้

 

วันที่ 23 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.14 (บ้านคลองเจริญ) ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร น.ส.น้อย อายุ 55 ปี ได้ไปแจ้งความที่ สภ.คลองขลุง เพื่อนดำเนินคดีกับ น.ส.รจนา อายุ 29 ปี ลูกสาวแท้ ๆ ที่แอบกดเงินในบัญชีธนาคาร จำนวนกว่า 140,000 บาท ของแม่ไปจนเกลี้ยงบัญชี และได้นำเอาสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ไปขาย และนำทองปลอมมาเปลี่ยนไว้แทน

 

น.ส.น้อย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 64 ที่ผ่านมาได้เดินทางไปกับลูกสาว เพื่อนำเงินสดค่าเช่าที่นา ไปฝากที่ ธนาคารออมสิน สาขาคลองขลุง จำนวน 140,000 บาท ซึ่งตนไม่รู้หนังสือ ก็ได้ให้ลูกสาวจัดการฝากใส่สมุดบัญชีตามยอดข้างต้น ในชื่อบัญชีของตน ระหว่างดำเนินการฝากเงินตนก็เห็นว่าเงินถูกฝากจริง และได้ปรับสมุดเป็นยอดปัจจุบันแล้ว แต่ไม่ได้สังเกตว่าลูกสาวได้แอบทำบัตร ATM มาด้วย ซึ่งตนยอมรับว่าในระหว่างฝากที่เคาน์เตอร์ธนาคาร ลูกสาวให้เซ็นอะไรก็เซ็น ซึ่งตลอดระยะเวลาฝากเงินในบัญชีไม่เคยนำเงินออกมาจากบัญชีและไปปรับสมุดเลย

 

จนกระทั่งตนมีความจำเป็นต้องใช้เงิน เลยนำสมุดบัญชีไปถอนเงินแต่กลับเหลือเงินติดบัญชีเพียง 29 บาท เท่านั้น ตนตกใจมากว่าเงินหายไปไหน คิดขึ้นได้เหลือทองอีก 1 บาท จึงให้หลานสาวพาเอาทองที่ตนเก็บไว้จะเอาไปขาย เมื่อถึงร้านทองพบว่าเป็นทองปลอม ตนเองจึงรีบไปแจ้งความและไปขอเอกสารทั้งหมดกับธนาคารส่งมอบให้ตำรวจตรวจสอบ โดยดูลักษณะการถอนเงินจากบัญชี มีการไหลเข้าออกอยู่เรื่อย ๆ ประมาณ 3 สัปดาห์ จนสุดท้ายกดเงินหมดบัญชีเหลือเพียง 29 บาท เมื่อวันที่ 28 พ.ย.64

 

น.ส.น้อย กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุแล้ว ตนได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมั้นใจว่าลูกสาวแท้ ๆ ได้ขโมยไปอย่างแน่นอน ก่อนที่จะรู้ว่าเงินหายลูกสาวได้หายตัวไปแล้วหลายวัน จนเอาสมุดมาปรับก็ไม่มีเงินในบัญชีแล้ว ซึ่งวันเดียวกันตนต้องใช้เงินเลยนึกได้ว่ามีทองคำ 1 บาท เลยนำไปขายแต่กลับเป็นทองปลอม ที่อยากเตือนใจสังคม และอยากให้ตำรวจตามจับลูกสาวมาดำเนินคดีให้เข็ดหลาบ และไม่อยากให้ไปหลอกใครอีก ทุกวันนี้ก็เลี้ยงหลานอยู่ 2 คน ที่เป็นลูกของ น.ส.รจนา ที่ผ่านมาลูกสาวแท้ ๆ มีพฤติกรรมขโมยเงินทอง แม้บัตรคนจนก็เอาไปหมด

 

ด้าน นางเอ (นามสมมติ) อายุ 36 ปี หลานสะใภ้ที่พา น.ส.น้อย เอาทองไปขาย กล่าวว่า ตนได้พายายนำทองไปขายที่ร้านทองในพื้นที่ โดยทางร้านแจ้งว่าเป็นทองปลอม ตกใจมาก และกลัวว่าจะโดนจับ เลยเรียกยายขึ้นมาดูด้วย แต่ทางร้านก็ใจดีไม่เอาผิด ที่นำทองปลอมมาขายเพราะรู้ว่าไม่มีเจตนา ยอมรับว่าตกใจมาก หากเจ้าของร้านเอาเรื่องคงแย่แน่ ๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง