เอกาโกลบอล เร่งออกสินค้าตามเทรนด์เศรษฐกิจหมุนเวียน เล็ง Top 5 ของโลก

ข่าววันนี้ นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร เปิดเผยว่า มองตลาดบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคเอเชียทั้งปี 2564 เติบโตสูงขึ้นในทิศทางเดียวกันกับอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก คาดว่าจะเติบโตกว่า 30-35% ต่อปี โดยเฉพาะกลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน ที่เห็นการเติบโตสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีผลมาจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค และต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยด้านอาหารและสุขอนามัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา อาทิ อินเดีย อินโดนีเซีย และบราซิล เป็นต้น

ทั้งนี้ ปี 2564 บริษัทลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานที่ประเทศไทย นับเป็นไลน์การผลิตใหม่ ลำดับที่ 10 มีกำลังการผลิตกว่า 350 ล้านชิ้นต่อปี หรือ เพิ่มขึ้นอีก 15% จากกำลังการผลิตเดิม 2,500 ล้านชิ้นต่อปี มาอยู่ที่ 2,850 ล้านชิ้นต่อปี เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดภูมิภาคเชียและทั่วโลก โดยกำลังการผลิตใหม่ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จ พร้อมเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์แล้วในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทยังเตรียมขยายการลงทุนในประเทศอินเดียมากขึ้น โดยปี 2565 เตรียมตั้งโรงงานใหม่ที่อินดีย 1 แห่ง ในเมือง PUNE คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตลาดอินเดีย เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในมิติของขนาดตลาดอาหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก และอินเดียมีจำนวนประชากรสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มีทรัพยากรด้านอาหารที่สมบูรณ์ ขณะที่เศรษฐกิจของอินเดีย มีการเติบโตต่อเนื่องและรายได้เฉลี่ยของประชากรสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางด้านความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในอินเดีย เติบโตมากขึ้นทุกปี

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่าบริษัท ตั้งเป้าเติบโตเท่าตัว ภายใน 5 ปี จะมียอดขายเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายติดหนึ่งใน 5 ของตลาดบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารของโลก ขณะเดียวกันมีเป้าหมายสู่การผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบบครบวงจร 360 องศา ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร บริษัทอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ “กรีนโปรดักส์” ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ บรรจุภัณฑ์ Bioplastic (PLA) ที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด หรือ อ้อย เป็นต้น 2. บรรจุภัณฑ์ Biodegradable ที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ 3. บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (PCR) หรือ เรซิน รีไซเคิล เป็นต้น