แม่สอด ติดเชื้อกระจาย 7 ครอบครัว พบผู้ป่วยแล้ว 11 ราย สธ. เร่งสอบโรคด่วน
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ ทำเนียบรัฐบาล พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) กล่าวว่า การสอบสวนโรคผู้ติดเชื้อโควิด-19 กรณีชายไทย อายุ 95 ปี อาศัยในกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นผู้ป่วยติดเตียง เมื่อวันที่ 31 ม.ค. พบว่ามีการติดเชื้อโควิด หลังจากมีการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยมีลูกจ้างชาวเมียนมา 3 ราย เป็นผู้ดูแล ทำหน้าที่ใกล้เคียงกัน คือ พ่นยา ดูดเสมหะ ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นผู้ป่วยติดเตียง สิ่งที่คาดคิดไว้คือติดเชื้อมาจากผู้ดูแล ที่รับเชื้อมาจากข้างนอก และมาติดกับผู้ป่วย
“ฉะนั้นสิ่งที่ต้องย้ำคือ หากบ้านใดที่มีแรงงานต่างด้าว ไม่ว่าจะอาศัยในบ้าน หรือไปกลับ ก็ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อและนำเชื้อเข้ามาในบ้าน อาจต้องพูดคุยกันว่า ตอนนี้มีการระบาดโควิดอยู่ ให้แรงงานเฝ้าระวังตัวเอง ไม่เข้าพื้นที่เสี่ยงหรืองดการปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนในช่วงวันหยุดก่อน เพราะนอกจากติดเชื้อแล้วยังมีโอกาสแพร่มาให้คนในบ้าน ที่อาจมีความเสี่ยงอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตได้” พญ.พรรณประภา กล่าว
พญ.พรรณประภา กล่าวว่า หากแรงงานต่างด้าวติดเชื้อโควิด-19 ก็จะต้องเข้าสถานกักกันโรคหรือเข้ารักษาที่สถานพยาบาล ซึ่งนำมาสู่การสูญเสียรายได้ เป็นปัญหาของสุขภาพกายและสุขภาพใจหลังจากนี้ จึงต้องเน้นย้ำให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังจุดนี้
พญ.พรรณประภา กล่าวอีกว่า กรณีผู้ติดเชื้อใน จ.ตาก ชายไทย อายุ 75 ปี ติดเชื้อในอ.แม่สอด ขณะนี้กรมควบคุมโรคเร่งสอบสวนโรค ได้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไปใน 7 ครอบครัว พบผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว 11 ราย หลังจากนี้จะมีการสอบสวนโรคเพิ่มขึ้น เพื่อหาว่ามีการกระจายไปครอบครัวใดบ้าง หาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กลางและต่ำ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จะนำเสนอข้อมูลในครั้งต่อไป
“ในเทศกาลตรุษจีนในสัปดาห์หน้า ศบค.ขอให้เป็นมาตรการตรุษจีนปลอดภัย ห่างใกล้โควิด-19 ทั้งในวันจ่าย วันไหว้และวันเที่ยว ขอให้ประชาชนฉลองตรุษจีนอย่างปลอดภัย ไม่ให้เชื้อโควิดแพร่กระจาย สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ รวมถึงรับประทานอาหารแยกภาชนะกัน งดการทานร่วมกันในครอบครัว” พญ.พรรณประภา กล่าว