รีเซต

TLIย้ำพื้นฐานแกร่ง พอร์ตลงทุน4แสนล. อนาคตโอกาสโตสูง

TLIย้ำพื้นฐานแกร่ง พอร์ตลงทุน4แสนล. อนาคตโอกาสโตสูง
ทันหุ้น
26 กรกฎาคม 2565 ( 05:33 )
78
TLIย้ำพื้นฐานแกร่ง พอร์ตลงทุน4แสนล. อนาคตโอกาสโตสูง

#TLI #ทันหุ้น – TLI มั่นใจพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง มีโอกาสเติบโตสูง พร้อมปรับแผนออกผลิตภัณฑ์รองรับดอกเบี้ยขาขึ้น มองให้มาร์จิ้นในระดับที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป เผยพอร์ตลงทุนกว่า 4 แสนล้านบาท วางเป้ารับผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 3-4% ด้านที่ปรึกษาทางการเงิน ระบุหากราคาหุ้นย่อตัวลงมีโอกาสใช้กรีนชู หวังช่วยพยุงราคา ในช่วงจังหวะเข้าซื้อ 15.80-15.90 บาท

 

นายไชย ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ (Business Purpose) สู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นชีวิต (Life Solutions Provider) มุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต การประกันสุขภาพ และการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล เพื่อสร้างความมั่นคงในทุกช่วงของชีวิต (Life Stage) ทุกจังหวะชีวิต (LifeEvent) และทุกการใช้ชีวิต (Lifestyle) ของคนไทย

 

ขณะที่แผนการใช้เงินระดมทุนนั้น ส่วนใหญ่เพื่อใช้ในการเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจและเพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต ตลอดจนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินทุน ทั้งสำหรับเงินทุนหมุนเวียน และวัตถุประสงค์อื่นๆ โดยเชื่อว่านักลงทุนจะเห็นถึงศักยภาพของ TLI

 

*พื้นฐานแกร่ง

 

นายวิญญู ไชยวรรณ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TLI กล่าวว่า บริษัทมีพื้นฐานของธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมากในอนาคต เพราะประเทศไทยในปัจจุบันกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประกอบกับคนไทยมีความสนใจในการซื้อประกันชีวิตและสุขภาพมากขึ้น ดังนั้น จึงมองว่าธุรกิจประกันต้องมองในระยะยาว

 

ส่วนประเด็นแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นนั้น บริษัทได้มีการปรับการขายผลิตภัณฑ์ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่นและไม่ได้การันตีผลตอบแทนให้กับลูกค้าเหมือนในอดีต รวมถึงขยายผลิตภัณฑ์กลุ่มประกันเพื่อสุขภาพและประกันควบการลงทุน หรือ ยูนิตลิงค์ (Unit Linked) ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่ไม่อิงกับดอกเบี้ย ให้เพิ่มมากขึ้น เพราะผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าวให้มาร์จิ้นในระดับที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป

 

*พอร์ตลงทุน 4 แสนล.

 

นางวรางค์ ไชยวรรณ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TLI กล่าวว่า ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนของบริษัทรวมมูลค่ากว่า 400,000ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนหุ้นสามัญอยู่ที่เฉลี่ย 13%จากเกณฑ์ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 15% และมีพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ที่มีเรตติ้งสูง ซึ่งในปี 2565 บริษัทวางเป้าได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนไว้ที่ไม่น้อยกว่า 3-4%

 

สำหรับสถานการณ์ดอกเบี้ยขาขึ้นนั้น บริษัทได้มีการขายหุ้นต่างประเทศออกแล้วปรับการลงทุนมาลงในตลาดหุ้นไทยให้มากขึ้น รวมถึงถือเงินสดมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับเศรษฐกิจที่ผันผวน และเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

*ตั้งกรีนชูรองรับ

 

นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ ประธานสายวาณิชธนกิจและตลาดทุน กลุ่มธุรกิจการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังคงมีเครื่องมือในการรักษาราคาหุ้น (กรีนชู) เอาไว้รองรับแล้วด้วยในกรอบระยะเวลา 30 วัน หรือถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2565 โดยจังหวะในการเข้าซื้อมองว่าอยู่ที่ระดับ 15.80-15.90 จากราคาที่ใส่ไว้ไม่เกิน 16.00 บาท

 

“การจะใช้เครื่องกรีนชูคงต้องดูสภาวะความเหมาะสมของตลาด เป็นหลัก หากว่าตลาดแย่ เราก็คงต้องปล่อยให้ราคาเป็นไปตามกลไกของตลาด หากถมเงินลงไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่หากว่าตลาด กลับมาเคลื่อนไหวแบบ Side Way เราก็จะเข้าไปประคับประคองราคา ซึ่งกรอบราคาที่ใส่ไว้คือไม่เกิน 16.00 บาท แต่อย่างไรก็ดี อยากให้นักลงทุนมองที่พื้นฐานธุรกิจของ TLI ที่แข็งแกร่งมากกว่า โดยเฉพาะช่องทางตัวแทนประกันชีวิตที่โดดเด่นและสร้างยอดขายได้ค่อนข้างมาก ทำให้จากการเปิดประเทศและการฟื้นตัวเศรษฐกิจจะทำให้ยอดขายที่มาจากตัวแทนเพิ่มสูงขึ้น” นายอนุวัฒน์ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง