"หมอมนูญ" วิเคราะห์อีก 1 เดือนไทยจะติดโควิดสูงสุด ก่อนลดลงเป็นโรคประจำถิ่น

วันนี้ (9 มี.ค.65) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เปิดเผยว่าขณะนี้การระบาดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ไม่ใช่จุดสูงสุด โดยจากการดูตัวเลขผู้ติดเชื้อ เชื่อว่าโอมิครอนจะระบาดเพิ่มมากกว่านี้ภายในเวลาเพียง 1 เดือนจนไต่ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว
จากนั้นจะค่อยๆลดลงกลายเป็นโรคประจำถิ่นเช่นเดียวกับต่างประเทศ ซึ่งโอมิครอน มีการกลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2 จึงจะทำให้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อลดลงได้ช้า แต่หลังลดลงแล้วถึงมีสายพันธุ์อื่นก็ไม่ต้องกังวล เพราะความรุนแรงไม่เท่าโอมิครอน หรืออาจสูญพันธุ์ไปเช่นเดียวกับไวรัสซาร์สเมื่อ 20 ปีก่อน
ส่วนภาวะ Long Covid ของสายพันธุ์โอมิครอน หากดูจากสถานการณ์แล้ว น่าจะน้อยกว่าเดลต้า เนื่องจากเชื้ออยู่ที่คอและจมูก ไม่ส่งผลต่ออวัยวะส่วนอื่นๆมากเท่ากับเดลตา ผู้ที่หายป่วยจึงมีอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไป พบรุนแรงประเภทลงปอด หายใจเรื้อรัง เหนื่อย สมาธิ ความจำสั้นลงน้อยมาก รวมถึงอาการปวดเมื่อยก็ยังไม่พบ
นอกจากนี้ นพ.มนูญ ยังระบุถึงประเด็นการใช้ยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี้ รักษาผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ย่อย BA.1 BA.2 ว่าหากเป็นแอนติบอดี้ชนิดใหม่ ก็ยังใช้รักษาได้ เพียงแต่หากติดเชื้อ BA.2 อาจต้องเพิ่มจำนวนโดสขึ้น 2 เท่า จึงจะมีประสิทธิภาพ พร้อมเน้นย้ำขอให้ทุกคนฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เข็ม 4 ให้ได้ร้อยละ 60 เพราะตอนนี้มีคนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียงร้อยละ 30 ขณะที่เข็มแรกฉีดไปร้อยละ 70 หากเป็นไปได้เข็มแรกควรจะอยู่ที่ร้อยละ 90 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่มีทีท่าลดลง ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องรวมแล้วตั้งแต่สายพันธุ์โอมิครอนครองประเทศ มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 2,000 คน
ภาพจาก แฟ้มภาพ TNN ONLINE