จีนเลิก "แบน" อาหารทะเลญี่ปุ่น จ่อนำเข้าอีกครั้ง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมาเปิดเผยว่า ทางการจีนได้ตกลงที่จะเริ่มกระบวนการกลับมานำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากระงับไปนานถึง 2 ปี โดยจะยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าซึ่งเคยกำหนดขึ้นกรณีที่ญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเล ซึ่งเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นเมื่อปี 2554
โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นและเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรจีนได้บรรลุข้อตกลงกันในการหารือที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา และคาดว่าจีนจะกลับมานำเข้าอาหารทะเลของญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจีนได้ใช้มาตรการที่จำเป็น
แหล่งข่าวคาดว่า ทางการจีนจะออกประกาศต่อสาธารณะเพื่อผ่อนคลายมาตรการห้ามนำเข้าที่บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 และจะเปิดให้โรงงานที่แปรรูปและถนอมอาหารทะเลลงทะเบียนเพื่อส่งออกในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ กระบวนการจัดส่งอาหารทะเลของญี่ปุ่นมายังจีนอาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือนจึงจะสามารถเริ่มดำเนินการได้อีกครั้ง เนื่องจากกระบวนการลงทะเบียนจะต้องแล้วเสร็จ และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะต้องผ่านการตรวจสอบรังสี
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวอีกแหล่งระบุว่า ข้อจำกัดเกี่ยวกับการนำเข้าอาหารจาก 10 จังหวัดของญี่ปุ่นซึ่งรวมถึงฟุกุชิมะที่ประกาศใช้เมื่อเดือนมีนาคม 2554 หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิที่ส่งผลให้เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์นั้น จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป
เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว รัฐบาลของทั้งสองประเทศเห็นพ้องกันที่จะค่อย ๆ กลับมาค้าอาหารทะเลกันอีกครั้ง ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ประเทศที่สามจะต้องมีบทบาทตรวจสอบการปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งจีนเคยคัดค้านอย่างรุนแรง โดยให้เหตุผลว่าอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จีนได้เก็บตัวอย่างน้ำทะเลใกล้โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะภายใต้กรอบของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) และไม่พบระดับสารกัมมันตภาพรังสีที่ผิดปกติ
หนังสือพิมพ์นิคเคอิของญี่ปุ่นให้รายละเอียดว่า ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ญี่ปุ่นจะจัดตั้งศูนย์แปรรูปปลาร่วมกับทางการจีน และอาหารทะเลที่จะถูกส่งออกไปจีนจะต้องได้รับใบอนุญาตเพื่อยืนยันว่าอาหารทะเลที่จะถูกส่งออกไปจีนนั้นไม่มีสารกัมมันตรังสี เช่น ซีเซียม-137
ทั้งนี้ การที่จีนห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นเป็นสาเหตุหลักของความตึงเครียดระหว่างทั้งสองชาติ ซึ่งยังคงมีความขัดแย้งกันในประเด็นต่าง ๆ เช่น ข้อพิพาทเรื่องอาณาเขตและกิจกรรมทางทหารของจีน