นายกฯ ถกความมั่นคงชายแดนใต้ ย้ำฝ่ายปกครองต้องใกล้ชิดประชาชน ดูแลความสงบ

วันนี้ (13 พฤษภาคม 2568) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ชายแดนใต้
ทั้งนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมกับนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 4 จังหวัดในพื้นที่ชายแดนใต้ ร่วมประชุมผ่านระบบ Video Conference กับนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรีกำชับหน่วยงานในพื้นที่ระดับ ตำบล อำเภอ และหมู่บ้าน ทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด และเข้าถึงประชาชนมากขึ้น ซึ่งเป็นการน้อมนำหลักการทรงงานในหลวง รัชกาลที่ 9 “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ซึ่งเรื่องนี้สำคัญ เมื่อมีความใกล้ชิด ประชาชน ก็จะได้มีการพูดคุยบอกกล่าวกันและมีความเชื่อมโยงระหว่างกันด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญถึงการเตรียมความพร้อม กำลังพล เมื่อเกิดเหตุต้องมีความพร้อม ดังนั้น กระทรวงมหาดไทยร่วมทำงานกับทหาร ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ของกระทรวงมหาดไทย ได้มีการฝึกร่วมกัน ทั้งการฝึกใช้ยุทธโธปกรณ์ การปฏิบัติงานด้านมวลชน และการข่าว ขณะเดียวกันก็ต้องมีแผนระยะยาว การให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมา ที่ผ่านมาก็ ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ถ้ามีใครให้ข่าวบิดเบือนหรือคลาดเคลื่อน ก็ต้องเร่งทำความเข้าใจให้ดี เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลาย รวมทั้ง ยังมีพูดคุย เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิดกันมาตลอด โดยนายกรัฐมนตรีไทยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียก็มีการหารือพูดคุยเช่นกัน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังตอบคำถามสี่อมวลชน กรณีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) กลายเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มก่อเหตุ ในตอนนี้ว่า ปัจจุบัน มีการถ่ายโอนภารกิจจากฝ่ายทหารมาสู่ฝ่ายปกครอง ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย โดยเห็นได้จากภารกิจของเจ้าหน้าที่ อส. ในการส่งครูและนักเรียน ไปโรงเรียน การดูแลพระสงฆ์ขณะบิณฑบาต ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ก็จะกลับบ้านในพื้นที่ แต่อาจเป็นเป้าได้ และได้กำชับให้เพิ่มความระมัดระวังโดยเฉพาะการคุ้มครอง ครู นักเรียน พระสงฆ์ ซึ่งฝ่ายปกครองต้องทำให้ดีที่สุด ให้ชุดคุ้มครองตำบลผลัดเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำในที่ประชุมในการเคร่งครัดการใช้กฏหมาย เมื่อเกิดเหตุจะต้องเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้