ตาลีบันโฉมใหม่ เน้นสร้างชาติ หนุนสิทธิสตรี ‘ทำงาน-เรียนหนังสือ’
วันนี้ ( 18 ส.ค. 64 )ซาบีฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกของตาลีบัน กล่าว่า พวกเขาไม่ได้ต้องการศัตรูไม่ว่าจะภายนอกหรือในประเทศ ต้องการความสัมพันธ์อย่างสันติกับทุกประเทศ และต้องการความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ตาลีบันจะตั้งรัฐบาลอิสลามที่เข็มแข็งขึ้น พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า จะไม่ทอดทิ้งบรรดานักการเมืองอัฟกานิสถานในรัฐบาลชุดใหม่
มูจาฮิด กล่าวว่า ไม่มีอะไรน่าสงสัย ขณะนี้พวกเราอยู่ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ รัฐบาลชุดใหม่จะถูกจัดตั้งขึ้น ซึ่งหลังจากการเสร็จสิ้นกระบวนการทางการเมืองต่าง ๆ แล้ว เราจะจัดการประชุมกับบรรดาผู้นำฝ่ายการเมืองต่าง ๆ และร่วมกันหาข้อตกลงทางการเมือง จากนั้นรัฐบาลอิสลามที่เข้มแข็งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย จะเกิดขึ้น ขณะนี้ ผู้นำตาลีบันกำลังทำงานและปรึกษาหารือเพื่อคัดเลือกบุคคลที่จะเข้ามาร่วมในรัฐบาลชุดใหม่
โฆษกตาลีบันให้คำมั่นรับประกันความปลอดภัยของประชาชนที่ทำงานให้กับกองทัพสหรัฐฯและพันธมิตรด้วย โดยเขาบอกล่าว ปฏิสัมพันธ์ของอัฟกานิสถานกับต่างชาติจะดำเนินต่อไป และตาลีบันจะใช้แหล่งทรัพยากรธรรมชาติของประเทศในการฟื้นฟู
อัฟกานิสถานจะป้องกันกิจกรรมผิดกฎหมายต่าง ๆ เช่นการลักลอบค้าอาวุธและยาเสพติด พรมแดนทุกแห่งอยู่ภายใต้การควบคุมของตาลีบัน
นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า ตาลีบันจะเคารพสิทธิสตรี เปิดโอกาสให้ผู้หญิงในอัฟกานิสถาน ทำงานและศึกษาเล่าเรียนบนพื้นฐานของกฎหมายอิสลาม และจะได้รับสิทธิทุกอย่างภายในหลักการของอิสลาม เพราะผู้หญิงถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งของสังคม
ส่วนพัฒนาการอื่น ๆ นายมุลเลาะห์ อับดุล กานี บาราดาร์ ประธานฝ่ายการเมืองของตาลีบัน ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งตาลีบันและเป็นผู้นำหมายเลขสอง ก็เดินทางกลับจากกาตาร์ ถึงอัฟกานิสถานในวันอังคาร เป็นครั้งแรกที่บาราดาร์เดินทางกลับประเทศในรอบ 20 ปี และมีขึ้น 11 ปีหลังเขาถูกจับกุมโดยกองกำลังรักษาความมั่นคงของอัฟกานิสถานในปากีสถาน ประเทศเพื่อนบ้าน
บาราดาร์ ถือเป็นสมาชิกคนสำคัญของรัฐบาลตาลีบันในช่วงที่อยู่ในอำนาจครั้งสุดท้าย และการเดินทางกลับมาของเขาจะจุดกระแสความวิตกกังวลว่า ธรรมชาติของรัฐบาลชุดใหม่จะเป็นภาพสะท้อนของรัฐบาลยุคนั้น
การประกาศของตาลีบัน ซึ่งไม่ยาวแต่นุ่มนวลกว่าที่พวกเขาอยู่ในอำนาจเมื่อ 20 ปีที่แล้ว มีขึ้นขณะที่สหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตก อพยพนักการทูตและพลเรือนต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุการณ์ความโกลาหลที่สนามบินในกรุงคาบูล ซึ่งมีชาวอัฟกานิสถานแห่ลงไปในสนามบินเพื่อเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ
ขณะที่พวกเขาเร่งอพยพ มหาอำนาจต่างชาติก็กำลังประเมินหามาตรการตอบโต้สถานการณ์ในพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไปหลังกองทัพอัฟกานิสถาน พ่ายแพ้เมื่อไม่กี่วันก่อน โดยสิ่งที่หลายคนคาดการณ์ คือการแก้ปัญหาสิทธิสตรีอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ระหว่างการปกครองประเทศในปี 1996-2001 ด้วยการใช้กฎหมายอิสลาม หรือชารีอะห์ กลุ่มตาลีบันห้ามผู้หญิงทำงาน และสั่งลงโทษรุนแรง รวมทั้งขว้างปาก้อนหินต่อหน้าสาธารณะ เด็กผู้หญิงไม่อนุญาตให้ไปโรงเรียนและผู้หญิงต้องสวมผ้าคลุมทั้งตัวเมื่อออกนอกบ้าน แต่สำหรับการคืนสู่อำนาจของตาลีบันครั้งนี้ มูจาฮิด โฆษกกล่าวว่า ผู้หญิงจะได้รับอนุญาตให้ทำงานและศึกษาเล่าเรียน และจะทำกิจกรรมในสังคมมากขึ้นแต่ต้องอยู่ภายในกรอบของศาสนาอิสลาม
มูจาฮิด กล่าวว่า ตาลีบันจะไม่ลงโทษอดีตทหารและสมาชิกของรัฐบาลที่สนับสนุนชาติตะวันตก แต่จะนิรโทษกรรมให้แก่ทหารในอดีตรัฐบาลอัฟกานิสถาน และบรรดาผู้รับเหมาและล่าม ที่ทำงานให้กับกองกำลังนานาชาติ นอกจากนี้ สื่อของเอกชน จะยังคงมีเสรีภาพและอิสรภาพในอัฟกานิสถาน แต่ก็ให้อยู่ภายใต้กรอบวัฒนธรรมของพวกเขา
มูจาฮิด กล่าวทิ้งท้ายว่า หลายครอบครัวที่พยายามหลบหนีออกนอกประเทศที่สนามบินนั้น ควรจะเดินทางกลับบ้าน และจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา